เอเอฟพี - บรรดาเครื่องบินขนาดเล็กพากันหงายท้อง หลังคาบ้านถูกฉีกกระจัดกระจาย เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์" เกิดขึ้นในแถบชายฝั่งตะวันออกของแดนจิงโจ้ สร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า พายุฝนฟ้าคะนองลูกนี้คือหนึ่งในพายุที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเห็นในประเทศนี้ แถมยังเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ที่สร้างความเสียหายให้กับเมืองบริสเบน ทำให้มีลูกเห็บขนาดเท่าลูกเทนนิสตกลงมาเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) แถมยังทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 39 ราย
ด้วยกระแสลมหมุนที่มีความเร็ว 140 กิโลเมตร ซึ่งแรงเทียบเท่ากับพายุไซโคลนระดับ 2 ได้ทำให้บรรดาต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนออกมา แถมยังทำให้เสาไฟฟ้าล้ม
ที่สนามบินอาร์เชอร์ฟิลด์ ห่างจากย่านใจกลางธุรกิจของบริสเบนออกไป 11 กิโลเมตร มีเครื่องบินขนาดเล็กอย่างน้อย 4 ลำหงายท้องให้เห็น
"มันดูราวกับเป็นวันสิ้นโลกเลยล่ะ" ชาวบ้านคนหนึ่งบอกกับนักข่าว เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่บนหลังคาเหลือแค่เพียงโครงเหล็ก เพราะความรุนแรงของพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์" ลูกนี้
ขณะที่ชาวบริสเบนอีกรายบอกว่า มีลูกเห็บตกลงมาราวกับห่ากระสุน
"ลูกสาวผมร้องให้ยกใหญ่ มันเหมือนกับมีรถไฟขนสินค้าพุ่งตรงเข้ามาหา เสียงมันดังขนาดนั้นเลย แถมขนาดของลูกเห็บก็ใหญ่มากจนเอาครั้งก่อนๆ มาเทียบไม่ได้" จอห์น อาร์เธอร์ บอกกับสถานีวิทยุ
แคมพ์เบล นิวแมน ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า นี่เป็นพายุรุนแรงที่สุดในบริสเบนนับตั้งแต่ปี 1985 แต่ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรง
"มันเป็นพายุที่น่าสะพรึงกลัวมาก ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต" เขาบอกกับสถานีวิทยุ เอบีซี
ประทีป สิงห์ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา บอกกับเอเอฟพีว่า พายุฝนฟ้าคะนองลูกนี้เริ่มก่อตัวจากพายุหมุนทั่วไปทางตอนใต้ของบริสเบน เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี แล้วมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ จนเจอกับอากาศชื้นจากลมทะเลซึ่งทำให้มันกลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนองชนิด "ซูเปอร์เซลล์"
"ซูเปอร์เซลล์จะมีกระแสลมหมุนที่ยกตัวขึ้น ดึงดูดความชื้นให้เข้าไปเจอกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าระดับเยือกแข็งและคงสภาพอยู่เป็นเวลานาน อนุภาคของฝนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนแข็งตัวกลายเป็นลูกเห็บ และเนื่องจากการก่อตัวของลูกเห็บเกิดขึ้นในซูเปอร์เซลล์ที่รุนแรง มันจึงลอยอยู่บนอากาศเป็นเวลานาน เมื่อมันใหญ่จนมีน้ำหนักที่มากพอ มันก็จะเริ่มตกลงมา" เขากล่าว
สก็อต เอเมอร์สัน รัฐมนตรีคมนาคมรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับบริสเบนในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป ขณะที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านประกันภัยก็พุ่งพรวดพราดในวันนั้น
สภาประกันภัยออสเตรเลีย ประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นภัยพิบัติตามธรรมชาติ มีผู้ขอเคลมเงินประกัน 15,060 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 109.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
บริษัทประกัน "ซันคอร์ป" เปิดเผยว่า มีบ้านประมาณ 1,000 หลัง รถยนต์ 1,600 คัน เคลมประกันจากเหตุการณ์คราวนี้
เสาไฟฟ้าอย่างน้อย 500 ต้นล้มลงมา บ้านเรือนหลายหมื่นหลังรวมถึงธุรกิจอีกมากมายไม่มีไฟฟ้าใช้ ในระหว่างที่เจ้าพนักงานกำลังเร่งซ่อมแซมในวันนี้ (28 พ.ย.)
โรงเรียนหลายสิบแห่งหยุดการเรียนการสอน พร้อมทั้งมีทหารหลายร้อยนายจากกองกำลังช่วยเหลือฉุกเฉินของกองทัพ เข้ามาช่วยเคลื่อนย้ายต้นไม้และซากปรักหักพังออกจากถนนในบริสเบน