เอเอฟพี – ไมเคิล ลินตัน ประธานบริหาร โซนี พิคเจอร์ส ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่าสตูดิโอแห่งนี้ยอมแพ้แก่แฮกเกอร์และจะเลิกฉายภาพยนตร์ “ดิ อินเทอร์วิว” โดยยืนยันวานนี้(19)ว่าบริษัทกำลังมองหาช่องทางอื่นๆ ที่จะเผยแพร่หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ
ลินตัน ยังตอบโต้คำพูดของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งระบุว่า โซนี “คิดผิด” ที่จะถอดหนังเรื่องนี้ออกจากโปรแกรมฉาย หลังสตูดิโอถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่โดยพวกแฮกเกอร์ที่คาดว่าน่าจะรับใบสั่งมาจากรัฐบาลโสมแดง
“เราไม่ได้ยอมแพ้ ไม่ได้โอนอ่อนผ่อนตาม เรามีความมานะบากบั่น และยังไม่คิดที่จะถอย” ลินตัน ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น หลังจากที่ถูกผู้นำสหรัฐฯ ปรามาสว่าตัดสินใจผิดพลาด
หลังจากนั้นไม่นาน โซนี ได้แถลงเพิ่มเติมว่า จากที่บริษัทได้ประกาศยกเลิกการปล่อยภาพยนตร์เข้าฉายในวันที่ 25 ธันวาคม “เรากำลังมองหาทางเลือกที่อาจจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถฉายในช่องทางอื่นๆ ได้”
“เรายังหวังเสมอว่า ผู้ที่ต้องการชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับโอกาส”
ภาพยนตร์ตลกซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนลอบสังหารผู้นำ คิม จอง อึน โดยสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) มีกำหนดเข้าโรงฉายในวันคริสต์มาส ทว่าเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน โซนี พิคเจอร์ส ถูกโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่ หลังจากนั้นแฮกเกอร์ยังส่งคำขู่ตามมาอีกหลายระลอก รวมถึงครั้งล่าสุดที่ยกเอาเหตุวินาศกรรม 9/11 ขึ้นมาขู่ไม่ให้คนไปดูหนังเรื่องนี้
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) พบหลักฐานยืนยันว่าเปียงยางอยู่เบื้องหลังการเจาะระบบขโมยข้อมูลของ โซนี พิคเจอร์ส ทว่าคณะผู้แทนโสมแดงประจำองค์การสหประชาชาติก็ออกมาปฏิเสธแทบจะทันควัน
ระหว่างการแถลงข่าวก่อนสิ้นปี ประธานาธิบดี โอบามา ชี้ว่า ผู้บริหาร โซนี พิคเจอร์ส คิดผิดที่ยกเลิกโปรแกรมฉายภาพยนตร์ ดิ อินเทอร์วิว เสียกลางคัน
“สิ่งที่พวกเขากังวลก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจ แต่ถึงกระนั้น แน่นอนผมคิดว่าพวกเขาตัดสินใจพลาด... สังคมอเมริกันไม่ควรปล่อยให้ผู้นำเผด็จการที่ไหนมาบังคับใช้มาตรการเซ็นเซอร์ในสหรัฐฯ” โอบามา กล่าว
ลินตัน ออกมาตอบโต้คำวิจารณ์ของผู้นำประเทศ โดยกล่าวว่า “ไม่หรอก สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับเหตุการณ์นี้ก็คือ ประธานาธิบดี สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น” จากนั้นก็อธิบายว่า เหตุที่ โซนี ต้องยกเลิกการปล่อยภาพยนตร์ก็เพราะเครือโรงหนังส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ ดิ อินเทอร์วิว เข้าฉาย
ลินตัน ยังตอกกลับคำแนะนำของ โอบามา ที่ว่า โซนี ควรจะขอคำปรึกษาจากประธานาธิบดีเสียก่อน
“เราเคยติดต่อไปยังที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวแล้ว ทำเนียบขาวทราบสถานการณ์มาโดยตลอด”
ผู้บริหารโซนี ยอมรับว่า การฉายภาพยนตร์ในช่องทางอื่นๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบริษัทผู้เผยแพร่ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือค้าปลีกล้วนหวาดผวาคำขู่ของแฮกเกอร์
สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งอเมริกา (Directors Guild of America) ชี้ว่าการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของ โซนี พิคเจอร์ส สะท้อนถึงภัยคุกคามที่น่ากลัวของอาชญากรไซเบอร์ พร้อมประกาศสนับสนุนสตูดิโอและผู้ผลิตภาพยนตร์ของ โซนี อย่างเต็มที่