รอยเตอร์ - กำหนดฉายภาพยนตร์ “ดิ อินเทอร์วิว” รอบปฐมทัศน์ในนครนิวยอร์กถูกยกเลิกวันนี้ (17 ธ.ค.) ขณะที่เครือโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ภาพยนตร์ตลกซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือเข้าฉาย หลังทราบสารจากแฮกเกอร์ที่ยกเหตุการณ์ 9/11 มาขู่คอหนังอเมริกัน
กลุ่มแฮกเกอร์ “การ์เดียน ออฟ พีซ” (จีโอพี) ซึ่งอ้างความรับผิดชอบกรณีบริษัท โซนี พิคเจอร์ส ถูกเจาะระบบเมื่อเดือนที่แล้ว มีคำแถลงล่าสุดวันนี้(17) ให้ชาวอเมริกันอยู่ห่างจากโรงภาพยนตร์ที่จะฉายหนังเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ เจมส์ ฟรังโก และ เซธ โรเกน เป็นผู้แสดงนำ ทั้งยังยกเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ขึ้นมาขู่
“จงจำวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 เราขอเตือนให้พวกคุณอยู่ห่างจากสถานที่เหล่านั้นในเวลานั้น (ถ้าบ้านคุณอยู่ใกล้ๆ ก็ขอให้หนีออกไปเสีย)”
โฆษกหญิงของเครือโรงภาพยนตร์แลนด์มาร์ค ซึ่งเดิมทีมีกำหนดฉาย “ดิ อินเทอร์วิว” รอบปฐมทัศน์ในวันพรุ่งนี้ (18) ที่โรงภาพยนตร์ ซันไชน์ ซีเนมา ในย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ นครนิวยอร์ก ได้ส่งอีเมลแจ้งยกเลิกกำหนดการฉาย โดยไม่อธิบายเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านโฆษกของโซนี่ พิคเจอร์ส ก็ยังไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำขู่ล่าสุดของแฮกเกอร์
แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ผู้บริหารโซนี่เคยแจ้งให้เครือโรงภาพยนตร์ต่างๆ ทราบแล้วว่า จะไม่ถอดภาพยนตร์ “ดิ อินเทอร์วิว” อย่างแน่นอน แต่ไม่คัดค้านหากโรงภาพยนตร์ใดจะปฏิเสธการฉาย ซึ่งล่าสุด คาร์ไมค์ ซีเนมา ซึ่งมีโรงภาพยนตร์อยู่ 278 แห่งใน 41 รัฐก็แจ้งให้ โซนี่ ทราบเมื่อเย็นวานนี้(16)ว่าจะไม่รับฉายภาพยนตร์ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (ดีเอชเอส) และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอเมริกันอีกคนหนึ่งยืนยันว่า จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าคำขู่ของแฮกเกอร์เป็นจริง ขณะที่สำนักงานตำรวจลอสแองเจลิส และนิวยอร์กกลับเห็นว่าเป็นสิ่งที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างจริงจัง
ชาร์ล เบ็ค ผู้บัญชาการตำรวจลอสแองเจลิส ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ทางตำรวจจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยโรงภาพยนตร์เป็นพิเศษ พร้อมชี้ว่าแฮกเกอร์กลุ่มนี้ต้องการทำให้ผู้ชมภาพยนตร์ในสหรัฐฯ รู้สึกหวาดกลัว
เว็บไซต์ข่าว BuzzFeed รายงานว่า ฟรังโก และ โรเกน ขอยกเลิกการมาปรากฏตัวในงานอีเวนต์ของ BuzzFeed เมื่อวานนี้ (16) ขณะที่ตัวแทนของนักแสดงทั้งสองไม่มีคำอธิบายต่อสื่อมวลชน
รัฐบาลโสมแดงได้ยื่นจดหมายร้องเรียนถึงเลขาธิการสหประชาชาติ บัน คีมูน โดยประณามภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็นการ “ส่งเสริมก่อการร้ายอย่างแอบแฝง และยั่วยุให้เกิดสงคราม”