xs
xsm
sm
md
lg

“เฟด” บอก ศก.US ฟื้น แต่ขึ้นดอกเบี้ยยัง “รอได้” ตอกย้ำว่าฤกษ์เริ่มขยับคือกลางปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด
เอเจนซีส์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของตนแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยแถลงในวันพุธ (17 ธ.ค.) ว่า สามารถ “อดทนรอ” ก่อนที่จะเคลื่อนไหวขยับขึ้นดอกเบี้ย และปรับนโยบายการเงินซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะผ่อนคลายสุดขีด ให้มีความเป็นปกติมากขึ้น พร้อมแสดงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ

คำแถลงที่ออกมาภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เป็นเวลา 2 วันคราวนี้ เท่ากับเป็นการดับกระแสการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนจะถึงกลางปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจอเมริกามีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง

ที่ประชุมเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย “เฟเดอรัลฟันด์เรต” เอาไว้ในระดับต่ำมากๆ ที่ 0.00-0.25% อย่างที่ได้ใช้มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ทั้งนี้เป็นเรื่องที่คาดการณ์กันอยู่ทั่วไป

ขณะเดียวกัน เฟดก็มีการปรับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯไปในทางที่ดีขึ้น โดยมองว่าในปีหน้า อัตราว่างงานจะลดลงเหลือ 5.2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวระหว่าง 1.0-1.6% ขณะที่อัตราเติบโตน่าจะอยู่ที่ 2.6-3.0% ทั้งนี้ เฟดได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตในปีนี้ให้สูงขึ้นเป็น 2.3-2.4% ด้วย

ทว่าสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคาดหมายของนักวิเคราะห์จำนวนมากก็คือ เฟดยังคงยืนยันยึดมั่นในแผนการเดิม ที่จะเริ่มการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ หรือก็คือการเริ่มขยับขึ้นดอกเบี้ย “ในระยะเวลาอีกช่วงหนึ่ง” ถึงแม้เฟดได้ยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ไปแล้ว โดยที่คำแถลงของเฟดคราวนี้ระบุว่า ถ้าหากจำเป็น ก็สามารถอดทนรอคอยไปจนเลยช่วงกลางปีหน้า

เจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติมในการแถลงข่าวว่า การที่คำแถลงของเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ใช้คำว่า “อดทนรอคอย” ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายนโยบาย เพียงแต่ว่า การที่เฟดยุติมาตรการคิวอีตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้คณะกรรมการเห็นว่า ควรมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำในคำแถลงไปบ้างเพื่อความเหมาะสม

ประธานเฟดชี้ว่า เฟดไม่น่าที่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเอฟโอเอ็มซี 2 ครั้งข้างหน้า นั้นคือในเดือนมกราคมและในเดือนมีนาคม แม้เธอย้ำว่าการขึ้นดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เยลเลนระบุว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงรุนแรงในปัจจุบัน จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ เนื่องจากผู้บริโภคจะมีเงินใช้จ่ายอย่างอื่นมากขึ้น

ในทางกลับกัน รัสเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันขาลงและการอ่อนค่าของรูเบิล เยลเลนชี้ว่า ความที่อเมริกากับรัสเซียมีความเชื่อมโยงกันอย่างหลวมๆ จึงไม่คิดว่า สถานการณ์เศรษฐกิจแดนหมีขาวจะส่งผลกระทบต่ออเมริกามากนัก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดจะจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทางด้านนักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยคำภาษาที่ปลี่ยนแปลงไปในคำแถลงของเฟดคราวนี้ต้องถือว่าเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย และไม่ค่อยมีนัยต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดจะเริ่มขยับขึ้นดอกเบี้ย นั่นคือคงต้องประมาณกลางปี 2015 จึงจะมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้กัน

ภายหลังการแถลงของเฟด ปรากฏว่าตลาดหลักทรัพย์ดูจะพึงพอใจ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้นถึง 288 จุด (1.69%) ปิดที่ 17,356.87 ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้น 40.15 จุด (2.04%) ปิดที่ 2,012.89 ถือเป็นการขึ้นแรงสุดภายในวันเดียวในรอบปีนี้ และดัชนีแนสแดคเดินหน้า 96.48 จุด (2.12%) ปิดที่ 4,644.31 เนื่องจากนักลงทุนมองว่า คำแถลงของเฟดตอกย้ำความมั่นใจในเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป


กำลังโหลดความคิดเห็น