xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียสั่งเททุนสำรองอุ้มเงินรูเบิล ชี้ราคาน้ำมันเป็นเหตุ-แซงก์ชันแค่ “จิ๊บๆ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - รัสเซียนั่งไม่ติด พยายามดิ้นรนหนักในวันพุธ (17 ธ.ค.) เพื่อหยุดยั้งค่าเงินรูเบิลที่ไหลรูด ทั้งด้วยการเทขายเงินทุนสำรองเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์ และการพูดจาปลอบโยนฟื้นความมั่นใจ จนสามารถดันสกุลเงินแดนหมีขาวกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงบ่าย อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบที่ดักรอรูเบิลอยู่คือ แนวโน้มที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ จะลงนามขยายมาตรการแซงก์ชันรัสเซียปลายสัปดาห์นี้

ถึงแม้ธนาคารกลางรัสเซียประกาศในตอนดึกวันจันทร์ (15) ขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 6.5% เป็น 17% แต่ก็ยังไม่สามารถประคับประคองค่าสกุลเงินแดนหมีขาวได้ โดยในวันอังคาร (16) รูเบิลยังคงดิ่งถลาลงทำสถิตินิวโลว์ ทั้งนี้ช่วงหนึ่งมูลค่าของมันลงมาถึง 20% ทีเดียว ก่อนจะขยับขึ้นไปได้บ้าง เมื่อรวมทั้งสัปดาห์นี้ก็เท่ากับอ่อนตัวลงมา 15% และหากนับกันตลอดทั้งปีนี้ รูเบิลก็ถูกลงเกือบ 60% สูสีกับสกุลเงินฮริฟเนียของยูเครน และอยู่ในฐานะเป็นสกุลเงินตราที่มีผลงานเลวร้ายที่สุดของโลก

ในวันพุธ (17) ตอนเปิดตลาด สกุลเงินรัสเซียได้กลับลดลงอีก จนมูลค่าหายไปประมาณ 3.0% เมื่อราวๆ บ่าย 13.00 น. เวลามอสโก (ตรงกับ 17.00 น.เวลาเมืองไทย) จากนั้นจึงดีดกลับขึ้นได้บ้าง โดยซื้อขายกันอยู่ที่ 66.05 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์ จากที่อยู่ในระดับ 67.88 รูเบิล/ดอลลาร์ ในคืนวันอังคาร และ 82.20 รูเบิลแลกได้ 1 ยูโร จากระดับ 85.15 ในคืนวันอังคาร

สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์รายงานวันพุธ โดยอ้างคำกล่าวของอเล็กเซย์ มอยเซเยฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคลังรัสเซียว่า กระทรวงการคลังเตรียมนำเงินตราต่างประเทศในบัญชีของกระทรวง ออกขาย “มากที่สุดเท่าที่จะมากได้และนานตราบเท่าที่จำเป็น”

ทั้งนี้ แม้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะใช้เงินเพื่อการนี้เท่าใด แต่กระทรวงเผยว่า มีเงินราว 7,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการฟื้นรูเบิล และไม่มีแผนนำเงินจากกองทุนฉุกเฉินมาใช้

มาตรการแทรกแซงของกระทรวงคลังมีขึ้นหลังจากที่แบงก์ชาติแดนหมีขาวถอนเงินจากคลังสำรองเงินตราต่างประเทศกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ไปพยุงรูเบิลนับตั้งแต่ต้นเดือนนี้

ส่วนสาเหตุที่รูเบิลอ่อนค่ามาตั้งแต่ต้นปี และยิ่งดิ่งหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นคือ การทรุดลงของราคาน้ำมัน ตลอดจนถึงผลกระทบจากมาตรการลงโทษของโลกตะวันตกจากกรณีที่รัสเซียเข้าแทรกแซงวิกฤตยูเครน

นอกจากนั้น รูเบิลยังมีแนวโน้มถูกกดดันหนักขึ้น จากแนวโน้มที่ประธานาธิบดีโอบามา จะลงนามบังคับใช้มาตรการลงโทษรัสเซียรอบใหม่ปลายสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดี เกอร์นอต เออร์เลอร์ ผู้ประสานงานของรัฐบาลเยอรมนีด้านความสัมพันธ์กับรัสเซีย แสดงความเห็นว่า วิกฤตเศรษฐกิจของรัสเซียส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาน้ำมันขาลง ไม่ใช่มาตรการลงโทษของตะวันตก ดังนั้น หากตะวันตกยุติการลงโทษ เศรษฐกิจรัสเซียก็คงไม่สามารถฟื้นคืนสภาพในทันที

ทางด้าน เวโดมอสติ หนังสือพิมพ์ธุรกิจชั้นนำของรัสเซีย ออกบทบรรณาธิการในฉบับวันพุธเตือนว่า สถานการณ์ปัจจุบันเข้าขั้นอันตรายมาก โดยหากไม่สามารถทำให้ตลาดการเงินสงบลงได้ ก็ต้องนำมาตรการฉุกเฉินมาใช้เพื่อรักษาระบบการธนาคารของรัสเซีย

มาตรการขยับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางรัสเซียนั้น มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดให้เทรดเดอร์ถือครองเงินรูเบิล เพราะจะได้ผลตอบแทนดีกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนจากดอกเบี้ยในการถือครองเงินตราสกุลสำคัญต่างๆ ซึ่งอยู่ที่เฉียด 0%

ทางเลือกอื่นๆ สำหรับทางการรัสเซียในการสกัดการเทขายรูเบิลคือ มาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งจะมีการควบคุมจำกัดการแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือการเข้าแทรกแซงอย่างเต็มที่ในตลาด เช่น ด้วยการกว้านซื้อรูเบิล

นายกรัฐมนตรี ดมิตริ เมดเวเดฟ ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกับผู้นำของพวกกิจการส่งออกรายใหญ่ของรัสเซียในวันพุธ ได้ปลอบใจว่า แดนหมีขาวมีทรัพยากรด้านเงินตราเพียงพอที่จะเอาชนะวิกฤตเศรษฐกิจได้ ถึงแม้ค่าเงินรูเบิลกำลังถอยกรูด รวมทั้งรัฐบาลจะใช้ “มาตรการต่างๆ ชุดหนึ่ง” เพื่อหยุดยั้งการไหลรูดเช่นนี้

แต่เขาระบุว่า การปฏิบัติการต่างๆ ต้องอิงอยู่กับกลไกตลาด และไม่มีเหตุผลที่จะนำเอามาตรการควบคุมเงินทุนมาใช้ คำพูดของเขาสอดรับกับการแถลงในวันอังคารของ อเล็กเซย์ อัลยูคาเยฟ รัฐมนตรีพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่ง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแผนบังคับใช้มาตรการควบคุมเงินทุนแต่อย่างใด แต่สำทับว่า ธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่รูเบิลทรุดหนักกระตุ้นให้ชาวรัสเซียแห่ซื้อรถยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น กระทั่งตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลายแห่งระงับการขาย เนื่องจากไม่แน่ใจว่า รูเบิลจะตกหนักแค่ไหน ขณะที่บริษัทแอปเปิล ระงับการขายผ่านระบบออนไลน์ในรัสเซียเช่นเดียวกัน

เศรษฐกิจรัสเซียนั้นถูกคาดหมายว่า จะหดตัวลง 0.8% หากราคาน้ำมันยืนหยัดเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทว่า ในความเป็นจริง ราคาน้ำมันขณะนี้ดำดิ่งต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้น จึงมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจแดนหมีขาวจะติดลบถึง 5%


กำลังโหลดความคิดเห็น