xs
xsm
sm
md
lg

ซิดนีย์เต็มไปด้วยความเศร้า “โทนี แอ็บบอตต์” ร่วมอาลัยเหตุการณ์จับตัวประกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบอตต์ พร้อมกับภรรยาร่วมไว้อาลัย
เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ “โทนี แอ็บบอตต์” และชาวออสเตรเลียต่างพร้อมใจกันในวันนี้ (16 ธ.ค.) นำดอกไม้มาวางไว้ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุจับตัวประกัน ที่ลงเอยด้วยการมีผู้เสียชีวิตและสร้างความโศกเศร้าให้กับเมืองซิดนีย์

บรรดาซุ้มขายดอกไม้ในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุต้องรับมือกับกระแสความต้องการของลูกค้าที่มากมายในวันนี้ เพื่อใช้ระลึกถึงผู้เสียชีวิต จนเกิดเป็นทะเลช่อดอกไม้ขึ้นมาในย่านมาร์ตินเพลส ที่มีเหตุจับตัวประกันนานกว่า 16 ชั่วโมง

“เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในออสเตรเลีย มันทำให้รู้สึกเศร้ามาก” ทอม แฮริส ผู้ที่ทำงานอยู่บนสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ กล่าวขณะที่เขาเดินเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ

“ผมรู้สึกเศร้าและเสียใจกับผู้เคราะห์ร้ายที่น่าสงสารเหล่านี้ มันทำให้ยิ่งเศร้ามากขึ้นที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงคริสต์มาส” เขากล่าว

ผู้คนพากันโศกเศร้า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธได้บุกจู่โจมเข้าไปในช็อกโกแล็ตคาเฟ่ “ลินด์” ช่วงรุ่งสาง แม้ว่าตัวประกันส่วนใหญ่จะหนีออกมาได้ แต่ผู้จัดการร้านกับคุณแม่ลูกสามกลับต้องเสียชีวิต ขณะที่ยังมีอีก 6 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นหญิง 3 คนที่มีบาดแผลจากกระสุนปืน

การก่อเหตุจับตัวประกันครั้งนี้เกิดขึ้นโดยฝีมือของ “มัน ฮารอน โมนิส” ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ขณะที่หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ เดอะ เดลี เทเลกราฟ ได้พยายามสื่อถึงความรู้สึกของชาวออสซีในขณะนี้ด้วยการพาดหัวตัวโตว่า “ปีศาจร้ายจู่โจมหัวใจของเรา”

ส่วนในโลกโซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยการแสดงความรู้สึกกลัวและหดหู่ใจ โดยมีหลายรูปที่แสดงให้เห็นถึงสถานที่สำคัญๆ ของซิดนีย์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #prayforSydney

“ผมจะนั่งรถไปกับคุณ” คือหนึ่งในข้อความที่ติดอยู่บนช่อดอกไม้ในย่านมาร์ตินเพลส ที่สื่อถึงการรณรงค์ให้ชาวออสเตรเลียนั้นมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชุมชนมุสลิม ซึ่งที่ผ่านมามีการทวิตข้อความที่ติดแฮชแท็ก #illridewithyou กันอย่างแพร่หลาย

ทั้งนี้ การรณรงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศนี้กำลังหวั่นวิตกเรื่องภัยก่อการร้าย ทำให้ชาวมุสลิมภายในประเทศต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา กลัวว่าจะถูกเล่นงานโดยกลุ่มคนที่เกลียดชังศาสนาอิสลาม

การรณรงค์นี้เริ่มขึ้นจากผู้ใช้เฟซบุ้คที่ชื่อ ราเชล จาค็อบ เธอบอกว่าได้พบกับหญิงมุสลิมรายหนึ่ง ที่ไม่กล้าสวมผ้าคลุมหัวขณะนั่งอยู่ข้างเธอบนรถไฟ เมื่อถึงสถานีเธอได้วิ่งตามไปแล้วบอกกับหญิงมุสลิมรายนั้นว่า สวมผ้าคลุมเสียเถิด เธอจะเดินไปส่ง ทำให้หญิงมุสลิมรายนั้นซึ้งใจจนร้องให้ แล้วกอดเธอ จากนั้นก็ได้เดินจากไป

เรื่องเล่าของ ราเชล จาค็อบ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า “เซอร์ เทสซา” จนผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ต้องเขียนข้อความว่า หากคุณต้องเดินทางด้วยรถบัสหมายเลข 373 สายคูกี-มาร์ตินเพลส เป็นประจำ โดยที่ต้องสวมเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม แล้วมันทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย “ฉันจะนั่งรถไปกับคุณ” ซึ่งต่อมาในภายหลังเธอได้เริ่มใช้แฮชแท็ก #illridewithyou จนมีผู้คนเข้าร่วมการรณรงค์นี้หลายพันคน

ด้านอาคารของหน่วยงานรัฐทั้งหมดในออสเตรเลีย ได้มีการชักธงครึ่งเสาเพื่อเป็นการไว้อาลัยสำหรับเหตุจับตัวประกันครั้งนี้

“ผมคิดว่าคงไม่มีเรื่องไหนทำให้เศร้าได้มากกว่านี้อีกแล้ว” แอนดรู ซิปิโอเน กรรมาธิการตำรวจรัฐนิวเซาต์เวลส์ กล่าวในขณะที่เขากำลังมองไปยังช่อดอกไม้ที่วางเรียงรายและเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังร้องไห้

“มันเป็นอย่างเดียวที่เราพอจะทำได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของพวกเรา” ซูลลี คาร์โร กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า ขณะที่เธอกำลังวางดอกไม้ พร้อมบอกอีกว่า “แต่สำหรับเด็กๆ พวกนั้นที่จะไม่มีแม่อีกแล้ว ดอกไม้เหล่านี้คงไม่อาจบรรเทาความเสียใจให้พวกเขาได้เลย”

ท่ามกลางผู้ที่เศร้าโศกหลายร้อยคน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โทนี แอ็บบอตต์ ได้มาร่วมไว้อาลัยในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีการแสดงความเคารพพร้อมทั้งลงนามในหนังสือแสดงความเสียใจ

ที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้ยกระดับการเฝ้าระวังความปลอดภัยมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว หลังจากที่ตำรวจได้สกัดแผนก่อการร้ายของผู้สนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เมื่อเดือนกันยายน ที่มุ่งจะลักพาตัวและฆ่าตัดคอสมาชิกในชุมชน

แต่แทนที่จะถูกเล่นงานโดยกลุ่มก่อการร้าย ช็อกโกแล็ตคาเฟ่ “ลินด์” กลับต้องเผชิญกับชีคกำมะลอที่มีข้อหาติดตัวนับสิบ อาทิ เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมภรรยาตนเอง และคุกคามทางเพศในตอนที่เขาทำตัวเป็น “ผู้เยียวยาทางจิตวิญญาณ”

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นชีคกำมะลอ แต่การเกิดเหตุนองเลือดและมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้คนกำลังทำกิจวัตรประจำวันในตอนเช้า อย่างการซื้อกาแฟระหว่างทางไปทำงานนั้น ดูจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสสำหรับผู้คนจำนวนมาก

“เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พวกเขาล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะเหตุการณ์คราวนี้ สำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เรื่องนี้มันช่างสะเทือนใจมากจริงๆ” แอนเจลิกา ไฮฟา ผู้ที่มาร่วมไว้อาลัยบอกกับเอเอฟพี

มิเรลลา ริโก ผู้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ฝ่าฝูงชนเข้าไปโอบกอดหญิงมุสลิมรายหนึ่งที่กำลังวางดอกไม้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชุมชนมุสลิม

“มันเป็นการกระทำที่จริงใจมาก ฉันคิดว่าการมาร่วมไว้อาลัย แสดงให้เห็นว่าชาวมุสลิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้” เธอกล่าว

ขณะที่ มาเรียม เวอีสซาเดห์ หนึ่งในตัวแทนชุมชนมุสลิมที่มาร่วมไว้อาลัย บอกกับเอเอฟพีว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในซิดนีย์เมื่อวานนี้ ได้ทำให้ชาวออสเตรเลียกลมเกลียวกันมากยิ่งขึ้น โดยไม่สนเรื่องของภูมิหลัง ศาสนาหรือเชื้อชาติ


ออสเตรเลียชักธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัย

กำลังโหลดความคิดเห็น