เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแถบชานเมืองของกรุงคาบูลช่วงเช้าวันนี้ (11 ธ.ค.) ทำให้ทหารอัฟกันเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย นับเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดของกลุ่มตอลิบานในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพีว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายรายนี้ได้เดินเข้าไปหารถบัสที่บรรทุกทหารอัฟกัน ในแถบชานเมืองของกรุงคาบูล แล้วทำการก่อเหตุ
“เมื่อเวลาประมาณ 07.15 น. มีมือระเบิดฆ่าตัวตายเดินเท้าเข้าไปหารถบัสของทหารอัฟกัน ในเขตทังกิ ทารัคฮิล ของกรุงคาบูล ผลของการโจมตีครั้งนี้ ทำให้ทหารอัฟกัน 6 รายต้องเสียชีวิต กับอีก 10 รายที่ได้รับบาดเจ็บ” เจ้าหน้าที่กล่าว
ด้านโฆษกของกลุ่มตอลิบาน “ซาบิฮัลเลาะห์ มูจาฮิด” ได้ออกมายอมรับว่ากลุ่มตอลิบานเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ ผ่านทางข้อความที่แจ้งแก่สื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน คำแถลงของกระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถานก็ยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ 6 รายเช่นกัน แต่ระบุจำนวนตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บว่ามี 11 ราย
กรุงคาบูลนั้นเกิดเหตุโจมตีอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าอัฟกานิสถานอาจจะกลับเข้าสู่วังวนแห่งการสู้รบ ในขณะที่ทหารต่างชาติซึ่งนำโดยสหรัฐฯ นั้นจะถอนกำลังพลออกมา
กองกำลังนาโต้ในอัฟกานิสถานจะเปลี่ยนบทบาทในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ จากภารกิจสู้รบไปเป็นบทบาทให้การสนับสนุน ขณะที่จำนวนทหารนั้นจะลดลงเหลือแค่ประมาณ 12,500 นาย จากที่เคยมีสูงถึง 130,000 นายในปี 2010
การโจมตีในวันนี้เกิดขึ้นในขณะที่อเมริกาได้ประกาศว่าจะไม่ควบคุมตัวนักโทษไว้ในอัฟกานิสถาน เพียงแค่ 1 วันหลังจากที่มีรายงานแฉของวุฒิสภา เกี่ยวกับการทรมานนักโทษในสงครามต่อต้านก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ยืนยันกับเอเอฟพีว่า บรรดานักโทษจากประเทศที่สามในอัฟกานิสถาน ที่ถูกควบคุมโดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ถูกส่งตัวออกนอกประเทศไปแล้ว
เมื่อเดือนมีนาคม 2013 กองกำลังของอัฟกานิสถานได้รับช่วงการควบคุมเรือนจำบากรัม ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของฐานทัพอากาศสหรัฐฯ แต่อเมริกายังคงมีอำนาจควบคุมตัวนักโทษที่ไม่ใช่ชาวอัฟกัน
การบริหารเรือนจำบากรัม ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาบูลขึ้นไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยมีบรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนพากันกล่าวหาว่าอเมริกาข่มเหงนักโทษ ขณะเดียวกันยังมีรายงานของกองทัพสหรัฐฯ ที่พบว่ามีนักโทษ 2 รายถูกซ้อมจนตายในปี 2002