xs
xsm
sm
md
lg

ไต้ฝุ่น “ฮากูปิ๊ต” อ่อนกำลังหลังขึ้นฝั่ง ตายแค่ 2 แต่ยังอยู่ในฟิลิปปินส์อีก 2 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ไต้ฝุ่น “ฮากูปิ๊ต” ขึ้นฝั่งกระหน่ำใส่บริเวณตอนกลางของฟิลิปปินส์ในตอนดึกวันเสาร์ (6 ธ.ค.) ทำต้นไม้ล้มระเนระนาด กระแสไฟฟ้าดับ บางพื้นที่การสื่อสารถูกตัดขาด และผู้คนเกือบ 900,000 คนต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คนแต่ไม่มีความเสียหายรุนแรง สืบเนื่องจากทางการฟิลิปปินส์เตรียมตัวตั้งรับอย่างดี กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่าขณะที่พายุลูกนี้อ่อนแรงลงบ้างแล้ว แต่ยังประมาทไม่ได้ โดยกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ 3 เกาะสำคัญของแดนตากาล็อก ก่อนจะออกสู่ทะเลจีนใต้ในวันอังคาร (9)

หลังจาก “ฮากูปิ๊ต” ขึ้นฝั่งที่จังหวัดอีสเทิร์น ซามาร์ และเคลื่อนผ่านจังหวัดที่เป็นเกาะอื่นๆ ในบริเวณนั้น สภาพที่พบเห็นได้ทั่วไป คือมีน้ำท่วมในระดับตื้นๆ บ้านเรือนที่ส่วนใหญ่เป็นกระท่อมเสียหาย ป้ายห้างร้านและหลังคาสังกะสีหลุดหาย ทว่าไม่มีรายงานยืนยันว่าเกิดความเสียหายขนาดใหญ่ใดๆ

พวกเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาระบุว่า เมื่อถึงวันอาทิตย์ (7) ไต้ฝุ่นลูกนี้มีความเร็วลมสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความแรงลม 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าอ่อนกำลังลงจากระดับสูงสุด แต่ยังมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดอันตรายได้มาก ทั้งนี้หลังจากมันขึ้นฝั่งแล้วก็มีการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ทำให้ฝนตกหนักซึ่งอาจก่อให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันตามมา

ประชาชนจำนวนเกือบ 900,000 คนที่ยังหวาดผวาไต้ฝุ่นมหาภัย “ไห่เอี้ยน” ซึ่งทำให้ชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตหลายพันคนเมื่อปีที่แล้ว พากันอพยพไปยังศูนย์พักพิงฉุกเฉินราว 1,000 แห่งและพื้นที่ปลอดภัยอื่นๆ หลังจากรัฐบาลซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทหาร 120,000 นาย ประกาศเตรียมพร้อมครั้งใหญ่ตามเป้าหมายป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นฮากูปิ๊ตแม้แต่คนเดียว

อเล็กซานเดอร์ ปามา ผู้อำนวยการสำนักงานรับมือภัยพิบัติของฟิลิปปินส์เผยว่า ประเทศต่างๆ ราวสิบประเทศนำโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดภัยพิบัติรุนแรง โดยอียูนั้นเตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินความเสียหายและมาตรการรับมือที่จำเป็น พร้อมแสดงความหวังว่า ไต้ฝุ่นฮากูปิ๊ตจะไม่รุนแรงเท่าไห่เอี้ยน

ขณะเดียวกัน กำลังทหารของฟิลิปปินส์ตระเวนตรวจตราตามซูเปอร์มาร์เก็ตและถนนสายหลักในจังหวัดต่างๆ ที่เป็นเส้นทางผ่านของฮากูปิ๊ตเพื่อป้องกันการปล้นและความวุ่นวาย รวมทั้งเพื่อเก็บกู้ซากปรักหักพัง

ปามาแถลงในวันอาทิตย์ว่า ตามรายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิตไป 2 คน โดย 1 ในนี้เป็นทารกหญิง ทั้งคู่ตายด้วยอาการภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ที่จังหวัดอีโลอีโล ในระหว่างไต้ฝุ่นกระหน่ำรุนแรงสูงสุดคืนวันเสาร์ นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บ 2 คน เป็นผู้หญิงที่นั่งรถสามล้อรับจ้างซึ่งถูกต้นไม้โค่นใส่ในจังหวัดเนกรอส โอเรียนทัล

สำหรับชาวบ้านบางส่วนในจังหวัดที่ปลอดภัยจากพายุแล้วได้รับแจ้งให้กลับบ้านได้ ในจำนวนนี้รวมถึงจังหวัดอัลเบย์ที่ประชาชนกว่าครึ่งล้านได้รับคำแนะนำให้อพยพก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านอีกเกือบ 12,000 คนในศูนย์หลบภัยในอัลเบย์ เนื่องจากอาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น

ถึงแม้เจ้าหน้าที่คลายความกังวลลงได้บ้าง แต่ยังคงเตือนว่า ฮากูปิ๊ต ที่แปลว่า “แตกเป็นเสี่ยง” ในภาษาตากาล็อก ยังคงมุ่งหน้าสู่เกาะหลักสามเกาะตอนกลางของประเทศ ก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกไปยังทะเลจีนใต้ในวันอังคาร (9)

ขณะเดียวกัน ดิงกี้ โซลิแมน รัฐมนตรีสวัสดิการแถลงว่า หมู่บ้านหลายแห่งที่ถูกไต้ฝุ่นถล่มถูกตัดขาดจากภายนอก เนื่องจากทั้งสายโทรศัพท์และสายไฟฟ้าได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ดี โซลิแมนเสริมว่า ประชาชนจำนวนมากเต็มใจอพยพออกจากชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงก่อนที่พายุจะมาถึง เนื่องจากมีประสบการณ์ฝังใจจากไห่เอี้ยน

ที่ผ่านมาในแต่ละปี ฟิลิปปินส์ต้องรับมือพายุใหญ่ประมาณ 20 ลูก ไม่รวมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จึงถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติร้ายแรงที่สุดของโลก

ในส่วนพายุนั้น มีโอกาสอยู่เสมอที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ดูเหมือนจะกำลังทำให้พายุมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและคาดเดาได้ยากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ในระหว่างการหารือเรื่องภาวะโลกร้อนที่เปรู นักเคลื่อนไหวตากาล็อกจึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูด โดยชี้ว่า ความถี่ในการเกิดไต้ฝุ่นจุดชนวนการถกเถียงในฟิลิปปินส์ว่า ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือมนุษย์หรือไม่

แจสเปอร์ อินเวนเตอร์จากกลุ่มกรีนพีซ ร่วมเรียกร้องว่า ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองจะสนับสนุนการแสดงออกที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการดำเนินการที่แท้จริงในที่ประชุมโลกร้อนของสหประชาชาติ เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นความอยู่รอดของมนุษยชาติ



กำลังโหลดความคิดเห็น