เอเอฟพี – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนตุรกีเป็นครั้งแรก จะเสด็จฯไปยังนครอิสตันบูลในวันนี้(29) โดยจะทรงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของนครใหญ่ที่สุดในตุรกี รวมถึงมัสยิดสุลต่านอาเหม็ต หรือ “มัสยิดสีน้ำเงิน” อันเลื่องชื่อ และจะทรงพบปะกับอัครบิดรแห่งโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
นครอิสตันบูลมีชื่อเดิมว่า “คอนสแตนติโนเปิล” และเคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรคริสเตียนไบแซนไทน์ ก่อนที่จะถูกพิชิตโดยจักรวรรดิออตโตมันของชาวมุสลิม ในปี ค.ศ. 1453
พระสันตะปาปาจะทรงเยี่ยมชม ฮาเกีย โซเฟีย โบสถ์ออร์โธดอกซ์ขนาดใหญ่ยุคไบแซนไทน์ซึ่งถูกแปลงเป็นมัสยิดหลังคอนสแตนติโนเปิลถูกมุสลิมยึดครอง และปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ จากนั้นจะเสด็จฯ ไปยังมัสยิดสุลต่านอาเหม็ต ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เสด็จฯ เยือนมัสยิดแห่งนี้ในปี 2006 พระองค์ทรงยืนสวดมนต์ด้วยท่วงท่าของชาวมุสลิม และผินพระพักตร์ไปทางนครเมกกะ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการหยิบยื่นไมตรีต่อศาสนาอิสลามอย่างน่าตกตะลึง ทว่าต่อมาสำนักวาติกันได้อธิบายว่า พระสันตะปาปาไม่ได้ทรง “สวดมนต์” ในมัสยิด และเพียงแต่ทรง “ทำสมาธิ” เท่านั้น ซึ่งคาดว่าพระสันตะปาปาฟรานซิสเองก็อาจจะทรงกระทำแบบเดียวกัน
ในช่วงเย็น พระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงเป็นประธานในพิธีสวดมิสซา ณ มหาวิหารคาทอลิกแห่งพระวิญญาณ (Catholic Cathedral of the Holy Spirit) ในนครอิสตันบูล จากนั้นจะทรงสวดมนต์ภายในโบสถ์ เซนต์ จอร์จ และทรงพบปะกับอัครบิดรบาร์โธโลมิวที่ 1 ผู้นำชาวคริสต์ออร์โธดอกซ์ซึ่งมีอยู่ราว 300 ล้านคนทั่วโลก
โป๊ปฟรานซิสและอัครบิดรบาร์โธโลมิวซึ่งทรงมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันอยู่แล้ว จะทรงพยายามลดช่องว่างระหว่างโบสถ์ทั้ง 2 นิกายที่มีมาตั้งแต่เกิดการแตกแยกครั้งใหญ่ (great schism) ในปี 1054
“เรารอคอยการมาของพระสันตะปาปาฟรานซิส พี่ชายของเรา อย่างใจจดใจจ่อ... นี่จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างโบสถ์ทั้ง 2 นิกาย” อัครบิดรบาร์โธโลมิว ตรัส
ชุมชนชาวคริสต์ตุรกีแม้จะมีอยู่เพียง 80,000 คนเมื่อเทียบกับพลเมืองมุสลิม 75 ล้านคน แต่ก็มีความหลากหลายเป็นพิเศษ คือมีทั้งชาวอาร์มีเนีย, ชาวกรีกออร์โธดอกซ์, ชาวคริสต์ละติน (Franco-Levantines), ชาวซีเรียออร์โธดอกซ์ และชาวแคลเดียน ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียงชาวคริสต์ละตินและชาวแคลเดียนเท่านั้นที่ถือว่าสันตะปาปาฟรานซิสเป็นประมุขของตน
เมื่อวานนี้(28) พระสันตะปาปาได้ทรงพบปะและสนทนากับประธานาธิบดี ตอยยิบ เออร์โดแกน แห่งตุรกีที่กรุงอังการา โดยทรงเรียกร้องให้พลเมืองต่างความเชื่อหันหน้าพูดคุยกัน เพื่อขจัดลัทธิอิสลามิสต์หัวรุนแรงที่กำลังบั่นทอนความสันติสุขในตะวันออกกลาง
การเสด็จฯ เยือนตุรกีครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญสำหรับพระสันตะปาปาที่จะทรงก่อสะพานเชื่อมไมตรีระหว่างชาวคริสต์กับมุสลิม ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังรุกรานอิรักและซีเรีย และชุมชนชาวคริสต์กลุ่มน้อยในตะวันออกกลางเสี่ยงที่จะถูกอิสลามิสต์กวาดล้าง
พระสันตะปาปาฟรานซิสยังถือเป็น “แขกบ้านแขกเมือง” พระองค์แรกที่เสด็จฯ เยือนทำเนียบประธานาธิบดีแห่งใหม่ในกรุงอังการา
ด้านประธานาธิบดีเออร์โดแกนก็ได้เตือนถึงอันตรายของกระแสหวาดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในโลก
“กระแสหวาดกลัวอิสลามกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เราจะต้องร่วมมือกันต่อต้านภัยคุกคามที่มีต่อโลก ซึ่งก็คือการไม่ยอมรับความแตกต่าง ลัทธิเหยียดเชื้อชาติ และการแบ่งแยกกีดกัน”
รัฐบาลตุรกีได้ระดมกำลังตำรวจราว 7,000 นายคุ้มกันประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิกตลอด 2 วันที่ประทับอยู่ในตุรกี โดยคาดว่าพระสันตะปาปาจะไม่ทรงปฏิสันถารกับฝูงชนอย่างใกล้ชิดเหมือนเช่นที่ทรงปฏิบัติระหว่างการเยือนชาติอื่นๆ