เอเอฟพี - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสวันนี้ (17 ส.ค.) ทรงมีพระดำรัสสนับสนุนศาสนาคริสต์ “นิกายโรมันคาทอลิกในเอเชีย” ที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในทวีปนี้ว่ามีความ “สร้างสรรค์” และทรงวิงวอนให้ประเทศต่างๆ อย่างจีน และเกาหลีเหนือตอบสนอง ด้วยการส่งเสริมให้มีการพูดคุยกับนครรัฐวาติกันโดยสมบูรณ์
ขณะทรงตรัสแก่คณะบิชอปนิกายคาทอลิกจาก 22 ชาติเอเชีย โป๊ปฟรานซิสทรงชี้ว่า คริสตจักรโรมันคาทอลิกไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปรับตัวให้สอดคล้องกับสังคม เมื่อถึงเวลาที่ต้องส่งสาส์นของวาติกัน ไปยังทวีปที่มีความแตกต่างกันอย่างน่าทึ่งเช่นนี้
พระองค์ทรงมีรับสั่งกับบรรดาบิชอป ณ วิหารมรณสักขี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 150 กิโลเมตร ก่อนวันสุดท้ายของการเสด็จเยือนเกาหลีใต้ว่า “คริสตจักร (คาทอลิก) ต้องปรับตัวเข้าหาผู้คนได้ง่าย และใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ ในทวีปอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของวัฒนธรรมต่างๆ มากมายแห่งนี้”
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเยือนทวีปเอเชีย ทวีปที่นครรัฐวาติกันมองว่า ประชากรผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกมีโอกาสขยายตัวอย่างมหาศาล จนสามารถชดเชยตัวเลขเหล่าผู้ศรัทธาที่กำลังหดตัวลงทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป
อย่างไรก็ตาม ชาติเอเชียเกือบ 10 ประเทศยังคงไม่มีสายสัมพันธ์ทางการทูตกับนครรัฐวาติกันอย่างเป็นทางการ โดยในจำนวนนี้รวมถึงประเทศจีน ชาติยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ซึ่งสั่งห้ามไม่ให้พลเมืองแดนผู้นับถือนิกายคาทอลิกยอมรับอำนาจของสมเด็จพระสันตะปาปา
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงวอนขอให้จีนเริ่มต้นใหม่ โดยยึดหลักการเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือด้วย “จิตวิญญาณแห่งความซื่อสัตย์”
พระองค์ตรัสกับคณะบิชอปว่า “เราคาดหวังอย่างยิ่งว่า ประเทศเหล่านั้นในทวีปของลูก ซึ่งยังไม่มีสายสัมพันธ์กับนครรัฐวาติกันอย่างสมบูรณ์ จะไม่ลังเลที่จะหันมาหารือเพื่อประโยชน์ของคนทั้งมวล”
*** การพูดคุยหารือที่มีประโยชน์ ***
ข้อมูลของทางการแดนมังกรระบุว่า มีพลเมืองจีนที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิก 5.7 ล้านคน ขณะที่แหล่งข่าวอิสระชี้ว่ามี 12 ล้านคน ทั้งนี้ชาวคาทอลิกในปักกิ่งจัดได้เป็น 2 กลุ่ม ระหว่างคริสตจักรของทางการที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่คอมมิวนิสต์ กับคริสตจักร “ใต้ดิน” ที่ขึ้นตรงต่อวาติกัน
ทั้งนี้ ปักกิ่งกับวาติกันผิดใจกันมานาน นับตั้งแต่จีนสะบั้นสายสัมพันธ์กับนครรัฐ เมื่อปี 1951
เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว จีนได้แถลงเตือนไม่ให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งในเวลานั้นเพิ่งได้รับเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา แทรกแซงกิจการภายในของแดนมังกร “ซึ่งรวมถึงการอ้างเหตุผลทางศาสนา”
โป๊ป ทรงเสนอจะประสาทพร ในเวลาที่พระองค์มีสาส์นถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ขณะประทับเครื่องบินผ่านจีน เพื่อเดินทางไปยังเกาหลีใต้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สาส์นดังกล่าวกลับไปไม่ถึงผู้นำแดนมังกร ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่เจ้าหน้าที่วาติกันชี้ว่า เกิดจากความบกพร่องทางเทคนิค
สำหรับเกาหลีเหนือ ความพยายามของนครรัฐวาติกันดูจะซึมผ่านเข้าไปได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อพิจารณาจากการที่โสมแดงระดมยิงจรวดพิสัยใกล้ลงทะเล ในเวลาเดียวกับที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเสด็จถึงกรุงโซล เปิดฉากการเยี่ยมเยือนเป็นเวลา 5 วัน
โป๊ปฟรานซิสจะทรงมุ่งประเด็นสำคัญไปที่เกาหลีเหนือ เมื่อพระองค์ทรงประกอบพิธีมิสซาพิเศษ “เพื่อสันติภาพและความปรองดอง” ของเกาหลีที่กรุงโซล ก่อนเสด็จกลับในวันพรุ่งนี้ (18)
อย่างไรก็ตาม เหล่าชาติเอเชียที่ไม่มีสายสัมพันธ์ทางการทูตกับนครรัฐวาติกัน ได้แก่ อัฟกานิสถาน ซาอุดีอาระเบีย ภูฏาน บรูไน ลาว เมียนมาร์ โอมาน และเวียดนาม
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวคาทอลิกที่เจริญก้าวหน้า และขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมองในภาพรวมระดับทวีปพบว่า ชาวโรมันคาทอลิกยังคิดเป็นเพียง 3.2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งทวีปเอเชีย