xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ผวา! เสริมทหาร 2 พันรับมือจลาจลเฟอร์กูสัน-ชุมชนผิวสีนัดชุมนุมทั่วประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเอฟพี - ทหารกว่า 2,000 นายได้รับคำสั่งในวันอังคาร (25 พ.ย.) ให้เข้าประจำการในเมืองเฟอร์กูสัน ที่กำลังเผชิญเหตุจลาจลจากความขุ่นแค้นของชาวบ้านต่อกรณีคณะลูกขุนสหรัฐฯไม่สั่งฟ้องตำรวจผิวขาวที่ยิงวัยรุ่นผิวสีไม่มีอาวุธเสียชีวิต ท่ามกลางเสียงประณามของครอบครัวเหยื่อที่เห็นว่าระบบยุติธรรมล้มเหลวดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ขณะเดียวกัน ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเมื่อชุมชนคนผิวสีและเหล่าผู้สนับสนุนสิทธิพลเรือนประกาศจะนัดชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศสุดสัปดาห์นี้

เจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีเปิดเผยว่าจะเสริมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในพื้นที่เฟอร์กูสันอีก 3 เท่าเป็น 2,200 นาย หลังจากเมื่อคืนวันจันทร์ (24 พ.ย.) เกิดเหตุประท้วงรุนแรง “ชีวิตและทรัยพ์สินจะต้องได้รับการปกป้อง ชุมชนแห่งนี้สมควรได้รับความสงบสุข” นิกสันกล่าว ขณะที่ความโกรธเคืองปะทุขึ้นทั่วประเทศและเกิดการประท้วงใหม่ในหลายเมือง “คณะของกองกำลังพิทักษ์จะเข้าประจำการและพร้อมดำเนินการทันทีที่ความท้าทายโผล่ขึ้นมา”

เหตุจลาจล ปล้นสะดม และโจมตีวางเพลิงปะทุขึ้นในเฟอร์กูสัน ในคืนวันจันทร์(24พ.ย.) ตามหลังคำตัดสินของคณะลูกขุนในวันเดียวกัน แม้มีการประจำการตำรวจและทหารรัฐจำนวนมาก โดยเฉพาะแถบชานเมืองเซนต์หลุยส์ ที่ต้องเตรียมรับมือกับเหตุความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นอีก

เบนจามิน ครัมป์ ทนายความของครอบครัวนายไมเคิล บราวน์ เหยื่อปืนโหดของตำรวจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเหล่าแกนนำสิทธิพลเรือน ประณามกระบวนการพิจารณาคดีที่คณะลูกขุนพบว่าดาร์เรน วิลสัน นายตำรวจวัย 28 ปี วิสามัญฆาตกรรมนายบราวน์ วัย 18 ปี เพื่อปกป้องตนเอง “กระบวนการนี้ล้มเหลว กระบวนการนี้ควรบ่งชี้ว่ามีความผิด”

นายครัมป์ยังวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซักค้านนายตำรวจวิลสัน ตอนที่เขาปรากฎตัวต่อคณะลูกขุน ที่ไม่สั่งฟ้องตำรวจผิวขาวรายนี้ในเหตุยิงลูกความของเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม “เคยไหม ที่ความน่าเชื่อถือของเขาได้ถูกท้าทาย?” ทนายความฝ่ายโจทก์ตั้งข้อสงสัย

นอกจากนี้แล้วเขายังตำหนิสิ่งที่เขาให้จำกัดความว่า “ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน” ระหว่าง โรเบิร์ต แม็กคัลลอช อัยการเซนต์หลุยส์เคาน์ตี ซึ่งเป็นลูกชายของตำรวจนายหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นด้วย

ด้านอัล แชปตัน นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนคนดัง ชี้ว่าคดีของบราวน์จะกระตุ้นให้ทั่วประเทศลุกขึ้นต่อสู้อีกรอบ เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจมีความรับผิดชอบมากขึ้น “นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาของเฟอร์กูสัน มันคือปัญหาของทั้งประเทศ” เขากล่าว “บางทีเราอาจพ่ายแพ้ในยกแรก แต่การต่อสู้ยังไม่จบ พวกเขาทำร้ายจิตใจเรา แต่ไม่ใช่กระดูกสันหลังของเรา”

นอกจากในเมืองเฟอร์กูสัน ยังมีประชาชนหลายพันคนชุมนุมประท้วงคำตัดสินของคณะลูกขุนใหญ่เซนต์หลุยส์ในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศในวันอังคาร (25 พ.ย.) เช่น เซนต์หลุยส์, บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย และแอตแลนตา เพิ่มเติมจากลอสแองเจลิส นิวยอร์ก ชิคาโก และวอชิงตันในวันจันทร์ (24พ.ย.) ขณะที่ แชปตัน บอกว่าประชาคมคนผิวสีและเหล่าผู้สนับสนุนสิทธิพลเรือนจะจัดชุมนุมทั่วประเทศในวันเสาร์ (29 พ.ย.)

แม้ครอบครัวของนายบราวน์จะวิงวอนขอความสงบ แต่ความโกรธแค้นต่อคำตัดสินใจวันจันทร์ (24 พ.ย.) กระพือสู่การปล้นสะดม วางเพลิง รวมถึงเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมอย่างรวดเร็วในช่วงค่ำคืนวันเดียวกัน โดยพบเห็นผู้ประท้วงยิงใส่ตำรวจ ปล้นสะดมร้านค้า จุดไฟเผารถยนต์และอาคารหลายสิบหลัง จนมีผู้ถูกจับกุมไปหลายสิบคน นับเป็นเหตุความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่นายตำรวจวิลสันยิงนายบราวน์ แม้ว่าไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม

ในส่วนของนายเจมส์ โนว์เลส นายกเทศมนตรีเฟอร์กูสัน ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของนายวิลสัน หลังจากพ้นผิด โดยบอกแต่เพียงว่าเขายังคงถูกพักงาน “เวลานี้สถานะลูกจ้างของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง”


กำลังโหลดความคิดเห็น