xs
xsm
sm
md
lg

In Pics :ประเทศเดียวในโลกออก กม.แบ่งแยก ปชช!! เนทันยาฮูผ่าน กม.ประกาศเจตนา “อิสราเอลเป็นของ ปชช.นับถือยูดายเท่านั้น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คณะครม.ของรัฐบาลเบนจามิน เนทันยาฮู อนุมัติกฎหมายเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ด้วยเสียงมติ 14-6 ระบุให้ประเทศเป็นของประชาชนยิวเท่านั้น ถึงแม้การตัดสินใจครั้งนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตรงกันข้ามที่เป็นประชาชนชนกลุ่มน้อยของประเทศที่ถือเป็นพลเมืองเช่นเดียวกัน เช่น ประชาชนเชื้อสายอาหรับ หรือเชื้อสายปาเลสไตน์ ที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของประเทศ ที่เกรงว่าจะถูกผลักเป็นประชาชนชั้นสอง การตัดสินใจเกิดขึ้นหลังจากเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นในชุมชนอาศัยของยิวอัลตรา-ออโธดอกซ์ที่มีแรบไบเสียชีวิตถึง 4 คน

สื่อไอร์แลนด์ ไอริชไทม์ส รายงานในวันจันทร์ (24) ว่า คณะรัฐบาลอิสราเอลที่อยู่ใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ลงมติด้วยเสียง 14-6 ในการประกาศเจตนาให้อิสราเอลนั้นเป็นรัฐของประชาชนในอิสราเอลที่นับถือศาสนายูดายเท่านั้น ซื่งถือเป็นชาติแรกที่ออกกฎหมายส่งเสริมการแบ่งแยกประชาชนในประเทศ

ยิว หรือ Jew หมายถึง (1) กลุ่มคนนับถือศาสนายูดาย (2) กลุ่มคนที่สืบเชื้อสายชนฮิบรูที่เก่าแก่ซึ่งในขณะนี้อยู่กระจัดกระจายไปทั่วโลก ดังนั้นประชาชนกลุ่มน้อย เช่น เชื้อสายอาหรับ หรือปาเลสไตน์ ที่อาศัยในอิสราเอลจึงไม่ถูกจัดเป็น “คนยิว”

โดยสมาชิก ครม.ที่เข้าร่วมในการลงมติต่างกล่าวว่า ถือเป็นการลงมติที่การโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนถึงผลดีผลเสียต่อการผ่านร่างกฎหมายประกาศเจตจำนงค์ประเทศ

โดยมีรายงานรั่วออกมาจากห้องประชุมว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ถึงกลับตบโต๊ะ พร้อมกับพูดว่า “มันไม่ใช่ที่ประชาชนเชื้อสายอาหรับสามารถอาศัยอยู่ในชุมชนยิว แต่กลับเป็นว่า ชาวยิวไม่สามารถอาศัยอยู่ในชุมชนชาวอาหรับได้ สถานการณ์ประเทศซ้อนประเทศกำลังเกิดขึ้น”

ทั้งนี้ เนทันยาอูประกาศชัดว่า กฎหมายฉบับนี้จำเป็นสำหรับอิสราเอล เพราะปาเลสไตน์ไม่เคยยอมรับว่า “ประเทศอิสราเอลแห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อกลุ่มชนที่นับถือศาสนายูดายเท่านั้น” และประชาชนในอิสราเอลเชื้อสายอาหรับกำลังคิดหาช่องทางแบ่งแยกเพื่อต้องการมีสิทธิ์ปกครองตนเองมากขึ้นในกาลิลี (Galilee) และ เนเกฟ(Galilee)

“อิสราเอลเป็นรัฐยิวที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตย...แต่มีบางกลุ่มต้องการใช้ประโยชน์จากระบอบประชาธิปไตยเพื่อมีอภิสิทธิ์เหนือประชาชนที่นับถือศาสนายูดาย หรือเรียกว่าชาวยิว และมีบางกลุ่มที่ต้องการให้ศาสนายูดายอยู่เหนือระบอบประชาธิปไตย และผมต้องการให้สองสิ่งนี้มีน้ำหนักเท่าเทียมในกฎหมายฉบับใหม่ ผมต้องการพิจารณาอย่างเท่าเทียม”

รมว.เสียงข้างน้อยในที่ประชุมที่ลงมติคัดค้านได้ขู่ที่จะออกเสียงคัดค้านอีกครั้งในวันพุธ (26) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอิสราเอลเพื่อออกเสียงลงมติในเบื้องต้นต้น ซึ่งสื่อไอร์แลนด์วิเคราะห์ว่า การลงมติในที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (23) สั่นสะเทือนสถานภาพคณะรัฐบาลของเนทันยาฮู และอาจจะเป็นการบีบบังคับให้ผู้นำรัฐยิวแห่งนี้ต้องตัดสินใจถอดสมาชิก ครม.เสียงข้างน้อยทั้งสี่ออกจากตำแหน่งในคณะครม.ของเขา และส่งผลให้อาจมีการประกาศยุบสภาและมีการเลือกตั้งเร็วก่อนกำหนดตามมาในที่สุด

ไอริชไทมส์รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (23) คณะ ครม.อนุมติร่างกฎหมายเกี่ยวกับเจตจำนงรัฐยิว 2 ฉบับ และในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกในที่ประชุมมีหน้าที่ต้องรวมร่างกฎหมายทั้งสองเข้าด้วยกันหลังจากผ่านการประชุมในรอบแรก ซึ่งในร่างกฎหมายทั้งสองฉบับมีจุดมุ่งหมายระบุถึงตัวตนของอิสราเอลให้ชัดเจน เน้นหนักถึงความเป็นรัฐยิวผ่านเพลงชาติและสัญลักษณ์ประจำชาติ รวมถึงการใช้ระบบปฎิทินตามแบบฉบับการนับของฮิบบรู รวมไปถึงกฎหมายการอพยพกลับของชาวยิวที่จะได้รับสิทธิตามกฎหมายในฐานะชาวยิวทันที

ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชื้อสายอาหรับเรียก “กฎหมายฉบับใหม่” นี้ว่า “เป็นการเหยียดทางชาติพันธุ์” ซึ่งมีชนกลุ่มน้อยในอิสราเอลถึง 20% ในประเทศนี้ที่มีความขัดแย้งระหว่งสองเชื้อชาติอย่างชัดเจน ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดเหตุเขย่าขวัญขึ้นในชุมชนยิวอัลตรา-ออร์โธดอกซ์ที่มีแรบไบต้องเสียชีวิตถึง 4 คน และตำรวจอีก 1 นายหลังโดนชาวปาเลสไตน์ 2 คนใช้มีด และขวานเป็นอาวุธเข้าทำร้าย สร้างความโกรธเคืองให้กับเนทันยาฮูที่ประกาศว่ากลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อยู่เบื้องหลัง

และก่อนหน้านี้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2013 ศาลสูงอิสราเอลตัดสินว่า ประเทศอิสราเอลไม่ใช้คำว่า “พลเมืองชาวอิสราเอล” ในการแสดงสถานภาพทางกฎหมายเพื่ออธิบายถึงความเป็นประชาชนของอิสราเอลในทะเบียนราษฎร โดยอ้างจากเจตนารมณ์การตั้งประเทศที่มุ่งเพื่อ “ชาวยิว” เป็นสำคัญ และทำให้พลเมืองชนกลุ่มน้อยโต้ว่า จากสาเหตุนี้ทำให้ประเทศอิสราเอลไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเพราะให้สิทธิแก่พลเมืองชาวยิวมากกว่า

จากรายงานพบว่า ชาวอาหรับที่มีอยู่ 20% ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยนี้นั้นถือสัญชาติอิสราเอล และพวกเขาจำนวนมากที่ได้เรียกตนเองเป็นคริสเตียนหรือมุสลิม และพบว่าในอิสราเอลนั้นยังมีชนกลุ่มน้อยอื่นๆ อาศัยอยู่อีกด้วย เช่น ดรูซ
       
จากรายงานระบุว่า ทะเบียนราษฎรของอิสราเอลนั้นจะแจกแจงรายละเอียดการนับถือศาสนาของแต่ละบุคคลและสัญชาติ หรือเชื้อชาติ นอกจากรายละเอียดเฉพาะบุคคลอื่นๆ เช่น กำหนดว่า “ชาวยิว” ซึ่งไม่ว่าจะอพยพมาจากส่วนใดของประเทศ จะถูกแจกแจงว่าเป็น “ยิว” ในขณะที่ชาวอาหรับหรือชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เช่น ดรูซ จะถูกระบุด้วย “เชื้อชาติ” แทน โดยการสำรวจคร่าวๆจะพบว่ามีจำนวน 50% ของพลเมืองอิสราเอลจะเรียกตนเองว่า “ชาวยิว” และจำนวนราว 41% ของพลเมืองอิสราเอลจะเรียกตนเองว่า “ชาวอิสราเอล” อ้างจากสถาบันประชาธิปไตยอิสราเอล

ที่ผ่านมาพบว่า พลเมืองอิสราเอลเชื้อสายอาหรับตกเป็นเหยื่อของการกีดกันอย่างเห็นได้ชัดจากนโยบายของรัฐ ชุมชนพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐน้อยกว่าชุมชนชาวยิว และพบว่าคนในชุมชนอาหรับนั้นจะมีฐานะและการศึกษาที่ด้อยกว่า

ในอดีตการกีดกันทางเชื้อชาติกับพลเมืองของประเทศเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในยุคห่อนปี 1965 ในรัฐทางใต้ของสหรัฐฯ ที่หลังจากแพ้สงครามกลางเมืองและสามารถกลับมายืนได้ด้วยตนเองอีกครั้งหลังผ่าน Post Construction Period ซึ่งถึงแม้พลเมืองแอฟริกันอเมริกันจะถูกปลดปล่อยจากความเป็นทาส ที่ในช่วงก่อนสงครามกลางเมืองสถานภาพของแอฟริกันอเมริกันเทียบเท่ากับ “สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของเท่านั้น ไม่ใช่มนุษย์” แต่อย่างไรก็ตาม ถึงพ้นจากสถานภาพเหล่านั้นมาได้และได้รับสถานภาพเป็นพลเรือนสหรัฐฯ รัฐบาลทางใต้ออกกฎหมายบังคับให้ประชาชนผิวสีต้องผ่านการสอบเพื่อมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองสหรัฐฯ โดยเดลิเมลสื่ออังกฤษ รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า ในการทดลองให้นักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ทดลองสอบข้อเขียนในยุคนั้นของรัฐหลุยเซียนาที่มีขึ้นในปี 1964 และพบว่าไม่มีนักศึกษาคนใดเลยสามารถผ่านการทดสอบขอมีสิทธิเลือกตั้งได้ เพราะข้อสอบออกแบบมาเพื่อให้ผลคะแนนติดลบ เช่น หากตอบผิดอย่างน้อย 1 ข้อจะถือว่าไม่ผ่านการทดสอบ และมีเวลา 10 นาทีในการทำข้อสอบ 30 ข้อ ซึ่งดูไปแล้วจะไม่ต่างกับอิสราเอลในขณะนี้
 ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดเหตุเขย่าขวัญขึ้นในชุมชนยิวอัลตรา-ออร์โธดอกซ์ที่มีแรบไบต้องเสียชีวิตถึง 4 คน และตำรวจอีก 1 นายหลังโดนชาวปาเลสไตน์ 2 คนใช้มีด และขวานเป็นอาวุธเข้าทำร้าย สร้างความโกรธเคืองให้กับเนทันยาฮูที่ประกาศว่ากลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อยู่เบื้องหลัง







ประชาชนเชื้อสายอาหรับ หรือ เชื้อสายปาเลสไตน์ ที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของอิสราเอล
การทดลองให้นักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดของสหรัฐฯทดลองสอบข้อเขียนในยุคนั้นของรัฐหลุยเซียนาที่มีขึ้นในปี 1964  และพบว่าไม่มีนักศึกษาคนใดเลยสามารถผ่านการทดสอบขอมีสิทธิ์เลือกตั้งได้

กำลังโหลดความคิดเห็น