เอเอฟพี - สหประชาชาติออกมาเรียกร้องในวันนี้ (19 พ.ย.) ให้ชาวโลกเลิกขับถ่ายของเสียในสถานที่เปิดโล่ง ด้วยเกรงว่าจะยิ่งเพิ่มการระบาดของโรคติดต่ออย่างอีโบลาที่กำลังสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับแอฟริกาตะวันตก
รายงานฉบับใหม่ของยูเอ็นเนื่องในวันสุขาโลก (19 พ.ย.) ระบุว่า ครึ่งหนึ่งของประชากรในไลบีเรียไม่มีห้องน้ำใช้ ขณะที่ในเซียร์ราลีโอน ชาวบ้านเกือบ 1 ใน 3 ต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีส้วม
ก่อนที่จะมีการประกาศว่าปลอดเชื้อไวรัสอีโบลาเมื่อเดือนที่แล้ว ไนจีเรียเองก็เคยออกมาเตือนประชาชนให้ระวังเรื่องขับถ่ายในที่เปิดโล่ง เพราะไวรัสมรณะชนิดนี้แพร่ระบาดผ่านของเหลวจากร่างกาย
รายงานฉบับนี้ ยังระบุด้วยว่า ประชาชนเกือบ 1 พันล้านคนทั่วโลก ถูกบีบให้ต้องขับถ่ายในที่โล่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่อีโบลาเท่านั้น ที่แพร่ระบาดจากการขับถ่ายไม่ถูกสุขลักษณะ
ในชาติแอฟริกาที่อยู่ทางใต้ของทะเลทรายซาฮารา ประชากร 1 ใน 4 มีการขับถ่ายในที่เปิดโล่ง ทำให้โรคท้องร่วงกลายเป็นสาเหตุการตายลำดับ 3 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบในแถบนี้
มีการประเมินว่า มีเด็กเสียชีวิต 1 คนทุก 2.5 นาที จากการดื่มน้ำที่ไม่ปลอดภัย ระบบสุขาภิบาลและการดูแลรักษาสุขภาพที่ย่ำแย่
เจน เอเลียสสัน รองเลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ทุกข์ของผู้หญิงส่วนใหญ่มาจากการขาดสิ่งอำนวยความสะดวก บ่อยครั้งที่เด็กหญิงปฏิเสธที่จะไปโรงเรียนเพราะไม่มีห้องน้ำ
"บรรดาเด็กผู้หญิงมักจะไม่ไปโรงเรียน ถ้าพวกเธอไม่มีห้องน้ำที่สะอาดและปลอดภัยให้ใช้ นอกจากนี้ทั้งผู้หญิงและเด็กยังมีความเสี่ยงที่จะถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตอนหาจุดขับถ่ายในที่โล่ง ระบบสุขาภิบาลที่ดีตามหลักสากลจึงมีความสำคัญมากในการช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้หญิง" รองเลขาฯ กล่าว
เกือบครึ่งของผู้ที่ไม่มีห้องน้ำใช้ทั่วโลกอยู่ในอินเดีย ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ปากีสถาน เนปาลและจีน ขณะที่ในแอฟริกา ประชากร 39 ล้านคนของไนจีเรียไม่มีห้องน้ำใช้ ส่วนที่เอธิโอเปีย ซูดาน ไนเจอร์และโมซัมบิก ก็มีตัวเลขผู้ไม่มีห้องน้ำใช้ในอัตราที่สูงเช่นกัน