เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อวันพุธ (13 ส.ค.) แค่ช่วง 2 วัน อีโบลาคร่าชีวิตชาวบ้านไปอีก 56 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,069 ศพ ท่ามกลางความพยายามต่างๆ นานาในการจำกัดการแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตก ทว่าไนจีเรีย ต้องอยู่ด้วยความกังวลมากขึ้นไปอีก หลังพบว่าพยายามที่ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้ฝ่าฝืนคำสั่งกักตัว ออกเดินทางไปยังภาคตะวันออก ก่อข้อวิตกว่ามันอาจแผ่ลามไปนอกเมืองลากอส
ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งพุ่งผ่านหลักพันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขยับสูงขึ้นไปอีกระหว่างวันที่ 10 และ 11 สิงหาคม หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในช่วง 2 วันดังกล่าวอีก 28 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,975 คน
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเผยด้วยว่า ในช่วง 2 วันข้างต้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทั้ง 4 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่มันถูกพบครั้งแรกเมื่อ 4 ทศวรรษก่อน
ไลบีเรีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 71 คนและเสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย เซียร์ราลีโอน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 53 คนและเสียชีวิต 19 ราย ส่วนกินี จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในช่วงต้นปีและประธานาธิบดีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นชาติล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 รายและเสียชีวิต 4 คน ขณะที่ไนจีเรีย พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 คน ส่งผลให้ยอดรวมเสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย แต่อีกด้านหนึ่งทางองค์การอนามัยโลกได้ปรับลดกรณีต้องสงสัยติดเชื้อหรือยืนยันว่าติดเชื้อในประเทศแห่งนี้ จาก 13 คนเหลือ 12 คน
อย่างไรก็ตาม ไนจีเรียต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากังวลเพิ่มเติม หลังพยาบาลในลากอสคนหนึ่งซึ่งติดเชื้ออีโบลา ฝ่าฝืนคำสั่งกักตัวของรัฐบาลเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่ระบาดออกนอกเมือง แอบเดินทางไปยังภาคตะวันออกของประเทศ
“เคราะห์ร้ายที่หนึ่งในพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ติดเชื้อรายแรก ไม่เชื่อฟังคำสั่งทางการแพทย์และเดินทางไปยังอีนูกู” ลาบารัน มากู รัฐมนตรีข่าวสารบอกกับผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายแรกของไนจีเรียก็คือนายแพทริก ซอว์เยอร์ พนักงานของกระทรวงการคลังไลบีเรีย ซึ่งนำพาอีโบลามายังลากอส เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม และเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม “ตอนนี้เรากำลังจับตาประชาชน 21 คนในอีนูกู ในนั้นรวมถึงสามีของพยาบาลและกลุ่มคนที่สัมผัสโดยตรงกับเธอ”
ก่อนหน้านี้ ไนจีเรียพยายามอย่างยิ่งยวดในการหาตัวพลเรือนทุกคนที่ปฏิสัมพันธ์กับนายซอว์เยอร์ ในนั้นรวมถึงเหล่าผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยเที่ยวบินเดียวกับเขา ซึ่งมีต้นทางจากกรุงมันโรเวีย ประเทศไลบีเรีย ขณะที่ประชาชนที่สัมผัสกับนายซอว์เยอร์ ได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ในลากอส เพื่อป้องกันความเป็นไปได้ในการแพร่ระบาดออกไปนอกเมืองแห่งนี้ของเชื้อไวรัสอีโบลา
จนถึงตอนนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อนอกมหานครที่มีประชากรกว่า 20 ล้านคน แต่การแพร่ระบาดได้ก่อความตึงเครียดไปทั่วประเทศ ท่ามกลางระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอของไนจีเรีย ขณะที่รัฐมนตรีข่าวสารเผยว่าตอนนี้มีอยู่ 198 คนที่ถูกระบุว่าอาจสัมผัสกับเชื้ออีโบลา ในนั้นรวมถึงกลุ่มคนในอีนูกู
สถานการณ์ที่เริ่มน่ากังวลที่ไนจีเรีย เกิดขึ้นขณะที่ชาติต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของอีโบลา ต่างตั้งความหวังกับตัวยาที่ยังไม่ผ่านการทดสอบ ด้วยในวันพุธ (13) ยา Zmapp เดินทางด้วยเครื่องบินถึงไลบีเรียแล้ว เพื่อนำไปรักษาแพทย์ 2 คนที่ล้มป่วยจากไวรัสมรณะชนิดนี้
ยา Zmapp บรรจุในกล่องสีขาวถูกขนส่งมาทางเครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่ง จากนั้นมันก็ถูกนำไปยังโรงพยาบาลจอห์น เอฟ.เคเนดี เมโมเรียล ในเมืองหลวง เพื่อนำไปรักษาแพทย์ซูคูนิส ไอร์แลนด์และอับราฮัม บอร์ดอร์ หลังจากองค์การอนามัยโลก อนุญาตให้ใช้ยารักษาอีโบลาที่ในขณะนี้อยู่ในขั้นทดลองกับผู้ป่วยติดเชื้อได้ ในวันศุกร์ (8) ที่ผ่านมา
