xs
xsm
sm
md
lg

“อาเบะ” ยันจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หวังโกยคะแนนก่อน ศก.ยิ่งซวนเซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น แถลงในวันอังคาร (18 พ.ย.) ว่าเขากำลังจะประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นก่อนครบวาระ 2 ปี
เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น แถลงในวันอังคาร (18 พ.ย.) ว่าเขากำลังจะประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นก่อนครบวาระ 2 ปี พร้อมกันนั้นก็จะชะลอแผนขึ้นภาษีการขายขั้นต่อไปออกไปก่อนจนถึงปี 2017 หลังจากข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเรียบร้อยแล้ว

เวลายังผ่านไปไม่ทันถึง 2 ปีหลังจากที่อาเบะคว้าชัยชนะอย่างงดงาม ด้วยการชูนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซามายาวนาน และขึ้นบริหารประเทศเป็นรอบที่ 2 นายกรัฐมนตรีผู้นี้ก็กำลังจะต้องลงแข่งขันในศึกเลือกตั้งอีกครั้ง โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าน่าจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนหน้า และเขาคงจะเน้นหนักหาเสียงด้วยการแจ้งประชาชนว่า ยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกมากในการแก้ไขภาวะเงินฝืดซึ่งฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจมานานปี

อาเบะออกมาแถลงข่าวในเย็นวันอังคารว่า เขากำลังจะยุบสภาล่างในวันศุกร์ (21) ที่จะถึงนี้ แต่ไม่ได้ระบุวันที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งมีขึ้นก่อนจะครบวาระในปี 2016 อย่างไรก็ดี สื่อแดนอาทิตย์อุทัยต่างคาดเก็งกันอย่างกว้างขวางว่า การเลือกตั้งคงจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมนี้

ช่วงเวลา 24 เดือนที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นได้เห็น 2 ใน “ลูกศร 3 ดอก” ของ “อาเบะโนมิกส์” ถูกยิงออกมาแล้ว อันได้แก่ มาตรการกระตุ้นทางการคลังขนาดใหญ่ และการผ่อนคลายทางการเงินแบบสุดขีด ทว่า ลูกศรดอกที่ 3 ซึ่งอาเบะหมายถึงการปฏิรูปเชิงโครงสร้างนั้น ยังค้างอยู่ในกระบอกบรรจุ

หัวใจสำคัญของอาเบะโนมิกส์ ได้แก่ การผลักดันราคาผู้บริโภคให้เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ต้องกระตุ้นให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย เมื่อเป็นเช่นนี้ได้ก็จะทำให้พวกบริษัทต่างๆ ลงทุนและผลิตเพิ่มขึ้น มีการว่าจ้างพนักงานใหม่หรือขึ้นเงินเดือนพนักงาน ซึ่งจะส่งผลเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยต่อไปอีก

ปรากฏว่าลูกศร 2 ดอกแรก ส่งผลให้ค่าเงินเยนดิ่งลง ทำให้ยอดการส่งออกกระเตื้องดีขึ้น ขณะที่ราคาสินค้านำเข้าขยับสูง รวมทั้งราคาน้ำมันและก๊าซ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งกระเตื้องตอนแรกๆ ทำท่าจะค่อยๆ เฉื่อยชาลงไป เมื่อปัจจัยลบต่างๆ เริ่มปรากฏมากขึ้น บริษัทต่างๆ ลังเลในเรื่องขึ้นค่าจ้าง อีกทั้งนักวิเคราะห์มองว่า ลูกศรดอกที่ 3 ของอาเบะโนมิกส์ยังไม่ปล่อยออกไปเสียที ทำให้ยากที่จะรักษาการฟื้นตัวในระยะยาว

ในช่วงนั้นเอง อาเบะได้ตัดสินใจให้ขึ้นภาษีการขายจาก 5% เป็น 8% ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ด้วยจุดประสงค์ที่จะเพิ่มรายรับของแผ่นดิน จะได้ลดยอดหนี้สินภาคสาธารณะอันมหาศาลลงไป และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ทว่าผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นดูจะไม่พร้อมรับกับเรื่องนี้ ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคจึงลดต่ำลง รวมทั้งภาคส่วนเศรษฐกิจอื่นๆ ก็ย่ำแย่ ส่งผลทำให้อัตราเติบโตของจีดีพีติดลบในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ต่อเนื่องกัน ซึ่งก็คือเป็นการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในทางเทคนิค

ระยะไม่กี่เดือนหลังๆ มานี้ มีเสียงเรียกร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ให้อาเบะระงับแผนการขึ้นภาษีการขายขยักสองเป็น 10% ตามที่กำหนดว่าจะเริ่มเดือนตุลาคมปีหน้า

ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร อาเบะบอกว่า ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเลื่อนการขึ้นภาษีนี้ไปอีก 18 เดือน แต่ยืนยันว่า จะไม่มีการเลื่อนอีกหลังจากนั้น ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาระหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นหนักหน่วงยิ่ง โดยที่เวลานี้มีมูลค่าเป็น 2 เท่าตัวของจีดีพีประเทศ

“เราจึงจำเป็นต้องขอการอนุมัติจากประชาชนสำหรับแผนการนี้ (ด้วยการประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด)” ผู้นำญี่ปุ่นแถลง

นอกจากนี้ อาเบะยังเมินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า กำลังใช้วิธีหว่านเงินงบประมาณซื้อใจผู้มีสิทธิออกเสียงอีกแล้ว โดยเขายังคงสั่งให้บรรดารัฐมนตรีไปพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นการเติบโตชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น โดยมาตรการนี้จะเน้นการช่วยเหลือครัวเรือนและภาคธุรกิจเป็นหลัก

ทางด้านพรรคฝ่ายค้าน แม้ยังอยู่ในอาการตั้งตัวไม่ติดภายหลังแพ้หมดรูปในการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แสดงความหวังว่าในครั้งนี้จะสามารถฉกฉวยโอกาสจากการที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงยังคงลำบากยากแค้นในภาวะที่ค่าแรงหยุดนิ่ง แต่ข้าวของแพงขึ้นเรื่อยๆ

บันรี ไคเอดะ หัวหน้าพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด โจมตีว่า เห็นได้ชัดว่า อาเบะโนมิกส์ไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตประชาชนเลย

โยชิกิ ยามาชิตะ สมาชิกสภาจากพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นฝ่ายค้านเช่นกัน กระแทกซ้ำว่า อาเบะโนมิกส์รังแต่ทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างขึ้น

กระนั้น นักวิจารณ์จำนวนมากเห็นพ้องกันว่า อาเบะที่ยังมีคะแนนนิยมอยู่แถวๆ 50% มีแนวโน้มจะกวาดคะแนนจากผู้มีสิทธิออกเสียง และว่า ศัตรูที่แท้จริงของเขาคือ สมาชิกพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) ด้วยกัน

ดังนั้น ด้วยเหตุที่แอลดีพีจะมีการเลือกตั้งผู้นำใหม่เดือนกันยายนปีหน้า อาเบะจึงต้องเริ่มล้างกระดานรอตั้งแต่ตอนนี้ หากต้องการรักษาเก้าอี้ไว้

นอกจากนั้น หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง อาเบะจะสามารถผลักดันแผนการเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากคนญี่ปุ่นยังเข็ดขยาดกับวิกฤตการณ์ฟูกูชิมะเมื่อปี 2011 รวมถึงโปรเจกต์แสนรักในการเพิ่มบทบาททางการทหารของญี่ปุ่น ที่ถูกวิจารณ์ว่า เป็นการฟื้นภาพลักษณ์ความกระหายสงครามของแดนอาทิตย์อุทัยในศตวรรษที่ 20

ไมเคิล คูเส็ก นักวิเคราะห์ในโตเกียวและนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทมเปิล ยูนิเวอร์ซิตี้ เจแปน ชี้ว่า การยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่เท่ากับว่า อาเบะสามารถล้างไพ่และปรับคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากปรับเล็กๆ ไปเมื่อต้นเดือนกันยายน เนื่องจากรัฐมนตรีสองคนมีเรื่องอื้อฉาวทางการเงินจนต้องลาออก

คูเส็คยังวิจารณ์ว่า การขึ้นภาษีการขายและนโยบายใช้จ่ายทางการคลังอย่างมหาศาลควบ คู่กับการผ่อนคลายทางการเงินเป็น “มาตรการเศรษฐกิจที่ต่างขั้วกันโดยสิ้นเชิง”

สแตน ชามุ นักกลยุทธ์ตลาดของไอจีทิ้งท้ายว่า นักวิเคราะห์มักคิดว่า อาเบะต้องการล้างกระดานและเติมพลังเพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกัน การเลือกตั้งก่อนกำหนดอาจทำให้เสียงข้างมากของแอลดีพีทรุดฮวบลงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น