เอเอฟพี – เกาหลีเหนือ ซึ่งกำลังถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องประวัติสิทธิมนุษยชน ได้ออกมากล่าวหาคู่ปรับอย่างเกาหลีใต้ว่าก่อ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” จากกรณีโศกนาฏกรรมเรือเฟอร์รีเซวอล
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังศาลตัดสินวานนี้ (11) ให้กัปตันเรือเฟอร์รีเซวอลรับโทษจำคุก 36 ปี เกาหลีเหนือก็ได้ออกรายงาน “กล่าวหา” ว่าเกาหลีใต้ “ก่ออาชญากรรมที่น่าหวั่นกลัว” และละเมิดสิทธิในการจัดการกับภัยพิบัติทางเรือนี้ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300 คน
รายงานจากสถาบันรวมชาติของเปียงยาง (National Reunification Institute) ได้เน้นย้ำความล้มเหลวที่กัปตันเรือและลูกเรือไม่สามารถอพยพผู้โดยสาร และความล่าช้าในการเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุของเรือกู้ภัยยามฝั่ง
รายงายชิ้นนี้วิจารณ์ปฏิบัติการกู้ภัยและโจมตีพฤติกรรมส่วนตัวของประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ซึ่งคะแนนความนิยมดิ่งฮวบท่ามกลางกระแสความเดือดดาลจากโศกนาฏกรรมนี้
สำนักข่าว เคซีเอ็นเอ ของทางการโสมแดงเผยแพร่รายงานชิ้นนี้ โดยระบุว่า ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ สองสัปดาห์หลังภัยพิบัตินี้ที่เกิดขึ้นในวันที่ 16 เมษายน พัค “โค้งตัวให้เขาในชุดหรูหรา ซึ่งเป็นการเมินเฉยต่อบรรยากาศความเศร้าเสียใจนี้อย่างยิ่งยวด”
“นี่เป็นความไร้ยางอายอย่างแท้จริงและเป็นการเหยียบย่ำสิทธิมนุษยชนอย่างไม่อาจให้อภัยได้” รายงานระบุ และเสริมว่า “ไม่มีการเรียงร้องถ้อยคำใดที่สามารถช่วยให้ทางการเกาหลีใต้หลบเลี่ยงความรับผิดชอบต่อภัยพิบัติเรือเฟอร์รีเซวอลไปได้”
รายงานโจมตีชิ้นนี้มีขึ้นขณะที่เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับการที่คณะมนตรีความมั่งคงของยูเอ็นมีมติประณามประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของเปียงยาง และเรียกร้องให้นำตัวคณะผู้ปกครองพวกเขาไปขึ้นศาลระหว่างประเทศเพื่อตอบคำถามเรื่องข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
มติดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการสืบสวนฉบับสมบูรณ์ของยูเอ็น จากคำให้การของผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่ให้ระรายละเอียดเกี่ยวกับเครือข่ายอันกว้างขวางของค่ายกักกันและกรณีการทรมาน , ข่มขืน , ฆาตกรรม และการจับเป็นทาส ที่้ล้วนมีเอกสารประกอบยืนยัน