เอเจนซีส์ - กัปตันเรือเฟอร์รี “เซวอล” ที่อับปางกลางทะเลในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนทำให้ผู้โดยสารกว่า 300 คนเสียชีวิต ถูกศาลชั้นต้นเกาหลีใต้ตัดสินในวันอังคาร (11 พ.ย.) ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 36 ปี ในความผิดฐานประมาทเลินเล่อขั้นร้ายแรงและละทิ้งหน้าที่ แต่ได้รับการยกฟ้องข้อหาฆาตกรรม ซึ่งฝ่ายอัยการเรียกร้องขอให้เขาถูกลงโทษขั้นสูงสุดคือประหารชีวิต
ภายหลังดำเนินการไต่สวนพิจารณาคดีมานาน 5 เดือน ศาลแขวงกวางจูที่ประกอบด้วยคณะผู้พิพากษาจำนวน 3 คน ได้ประกาศคำตัดสินในวันอังคารว่า ฝ่ายอัยการไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ลี จุนซก กัปตันเรือเซวอลวัย 69 ปี มีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่า ลีมีความผิดจากการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและละทิ้งหน้าที่ ซึ่งรวมถึงการทิ้งเรือที่กำลังใกล้อัปปาง ขณะที่ยังมีผู้โดยสารหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ยังติดอยู่ในเรือ
นอกจากกัปตันลีแล้ว ยังมีลูกเรืออาวุโสอีก 3 คน ซึ่งรวมถึงต้นกล (หัวหน้าวิศวกรประจำเรือ) ถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 15-30 ปี โดยที่ต้นกลซึ่งถูกตัดสินจำคุก 30 ปีเป็นคนเดียวที่ศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม จากการไม่ช่วยเหลือเพื่อนลูกเรือ 2 คนที่กำลังได้รับบาดเจ็บ สำหรับลูกเรือที่ที่อ่อนอาวุโสลงมาอีก 11 คนได้รับโทษจำคุก 5-10 ปี
ผู้พิพากษาลิม จุงย็อบ กล่าวในระหว่างอ่านคำตัดสินว่า นอกจากกรณีต้นกลแล้ว ยากที่จะสรุปได้ว่า จำเลยล่วงรู้ว่า เหยื่อทั้งหมดจะเสียชีวิตจากการกระทำของตน ดังนั้น จึงไม่สามารถยอมรับได้ว่าพวกเขากระทำความผิดฐานฆาตกรรม
อย่างไรก็ดี ลิมย้ำว่า หากลีและลูกเรือดำเนินการอย่างเหมาะสมทันทีที่เรือเซวอลประสบปัญหา ผู้โดยสารจำนวนมากก็คงจะรอดชีวิต
ลีและลูกเรือ “เซวอล” ถูกประณามและถูกกล่าวโทษอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง ในโศกนาฏกรรมซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา กระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบางคนตั้งคำถามว่า ในบรรยากาศเช่นนี้ คนเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมปลอดจากอคติได้หรือไม่
บ่อยครั้งที่สื่อแดนกิมจิตีไข่ใส่สีโดยตัดสินล่วงหน้าว่า จำเลยมีความผิดก่อนที่ศาลจะเริ่มไต่สวนด้วยซ้ำ แม้แต่ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ยังประกาศอย่างเปิดเผยว่า การกระทำของลูกเรือเซวอล “เทียบเท่าการฆาตกรรม”
นอกจากทิ้งเรือแล้ว บุคคลเหล่านี้ยังถูกประณามจากการสั่งให้ผู้โดยสารยังคงอยู่ในห้องพักต่อไป นับแต่ที่เรือเริ่มเอียงอย่างน่ากลัว
เมื่อการไต่สวนสิ้นสุดลงปลายเดือนที่แล้ว ลียอมรับว่าเขาตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียชีวิต
เรือเซวอลที่มีน้ำหนักระวาง 6,825 ตัน บรรทุกผู้โดยสาร 476 คนขณะเกิดเหตุ ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิต 304 คน โดย 250 คนเป็นนักเรียนมัธยมจากโรงเรียนเดียวกันที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษา
โศกนาฏกรรมครั้งนี้สร้างความตื่นตะลึงและความโกรธแค้นไปทั่วเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นที่ชัดเจนว่า สาเหตุเกือบทั้งหมดมาจากมนุษย์ เริ่มจากการที่เรือลำนี้ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างผิดกฎหมายเพื่อให้มีพื้นที่รับสินค้าได้มากขึ้น, มีการบรรทุกสินค้าเกินพิกัด, ลูกเรือขาดประสบการณ์, รวมทั้งสายสัมพันธ์เอื้ออวยกันระหว่างผู้ประกอบการเรือเฟอร์รีกับหน่วยงานคุมกฎระเบียบ
คำพิพากษาของศาลยังกล่าวโทษชองแฮจิน มารีน บริษัทที่ดำเนินการเรือเซวอล โดยระบุว่า ล้มเหลวในการจัดการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมให้แก่พนักงาน
“บริษัทมีข้อบกพร่องเชิงระบบ ดังนั้นจำเลยจึงไม่ควรแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดจากอุบัติเหตุนี้”
ปัจจุบันประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของชองแฮจินกำลังถูกไต่สวนในข้อหาประมาทเลินเล่อ ซึ่งอาจมีโทษจำคุก 15 ปี ขณะที่ญาติ 3 คนของเจ้าของเรือซึ่งเป็นนักธุรกิจพันล้าน ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือราว 4 เดือนหลังจากมีผู้พบศพนักธุรกิจใหญ่คนดังกล่าว โดยสันนิษฐานกันว่าเขาตายระหว่างพยายามหลบหนี
ศาลยังแถลงว่า อัยการและฝ่ายจำเลยมีเวลา 1 สัปดาห์ในการยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน โดยที่ฝ่ายอัยการกล่าวว่าจะอุทธรณ์แน่ เพราะเห็นว่าคำตัดสินนี้ “น่าผิดหวัง” โดยเฉพาะการให้ตัวกัปตันและลูกเรืออาวุโสอีก 2 คนพ้นผิดข้อหาฆาตกรรม
ขณะเดียวกัน บรรดาครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันอ่านคำแถลงที่ด้านหน้าอาคารศาลว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการยกฟ้องข้อหาฆาตกรรม และเรียกร้องให้ลงโทษผู้ดำเนินการเรือเฟอร์รีสถานหนัก เพื่อเตือนสติพวกที่ยอมแลกความปลอดภัยกับเงินทอง
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้าวันอังคาร ลี จูยอง รัฐมนตรีกิจการทางทะเล ได้ออกประกาศให้ยุติการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในซากเรือเซวอลที่จมอยู่นานถึง 7 เดือน เนื่องจากทัศนวิสัยใต้น้ำอันตรายเกินไปสำหรับนักประดาน้ำ
อย่างไรก็ดี ลีไม่ได้ให้รายละเอียดว่า รัฐบาลมีแผนจะกู้ซากเรือเซวอลขึ้นมาหรือไม่และเมื่อใด เพียงแต่บอกว่า จะตัดสินใจเรื่องนี้ภายหลังหารือกับผู้เชี่ยวชาญ
ด้านครอบครัวของเหยื่อ 9 รายที่ยังสูญหาย ออกคำแถลงสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมขอบคุณความพยายามของ “วีรบุรุษ” ในทีมกู้ภัย
ทั้งนี้ มีนักประดาน้ำพลเรือนอาสาสมัครเสียชีวิต 2 รายระหว่างปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างเหยื่อเซวอล
