เอเอฟพี – จอร์แดนรับปากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวานนี้(5)ว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้อิสราเอลโจมตีมัสยิด อัล-อักซอ ในเยรูซาเล็มตะวันออก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยิวบุกเข้าไปภายในศาสนสถานแห่งนี้จนเกิดปะทะกับชาวมุสลิมปาเลสไตน์
“จอร์แดนมองว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่อิสราเอลเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ดีนา กาวาร์ เอกอัครราชทูตจอร์แดนประจำยูเอ็น ระบุในจดหมายที่ส่งถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ พร้อมย้ำว่าจอร์แดนได้เรียกทูตของตนกลับจากอิสราเอลเพื่อประท้วงเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว
“จอร์แดนไม่ได้มีอคติใดๆ ทั้งสิ้นที่จะใช้มาตรการตามกฎหมายป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่อิสราเอลเข้าไปโจมตี หะรอม อัล-ชารีฟ (มัสยิด อัล-อักซอ) อีก”
ริยาด มันซูร์ ผู้แทนปาเลสไตน์ประจำยูเอ็น ก็ได้วิงวอนให้สมาชิกคณะมนตรีฯ ทั้ง 15 ชาติ “แสดงจุดยืนเรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกกิจกรรมและนโยบายที่ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า”
ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวันพุธ(5) ได้เกิดการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างตำรวจอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ภายในเขตมัสยิด อัล-อักซอ และยังมีชาวปาเลสไตน์ที่ขับรถพุ่งใส่คนเดินเท้าจนตำรวจตระเวนชายแดนนายหนึ่งเสียชีวิต
มันซูร์ กล่าวโทษ “พวกหัวรุนแรง” ที่เข้าไปในมัสยิด อัล-อักซอ โดยมีบางคนที่ไม่ยอมถอดรองเท้า ซึ่งถือเป็นการ “ดูหมิ่นยั่วยุอย่างร้ายแรง”
“พวกเขาพยายามทำให้พื้นที่แถบนี้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาให้ได้” มันซูร์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังเข้าพบ แกรี ควินแลน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำยูเอ็น ซึ่งรับหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ ประจำเดือนนี้
เอกอัครราชทูต กาวาร์ ระบุในจดหมายของเธอว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลได้บุกเข้าไปในมัสยิด อัล-อักซอ จากนั้นก็ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ซึ่ง “เป็นการใช้กำลังที่ขัดต่อกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ภายในศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับมุสลิมทั่วโลก”
ควินแลน เปิดเผยว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ ยังไม่มีแผนเรียกประชุมฉุกเฉิน แต่ก็ได้หารือถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในเยรูซาเล็มตะวันออกที่น่าเป็นห่วงขึ้นทุกขณะ
ด้าน รอน โปรซอร์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ก็ได้ยื่นจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงฯเช่นกัน โดยกล่าวหาว่าปาเลสไตน์เป็นฝ่ายยั่วยุ และที่ผ่านมายูเอ็นก็ไม่เคยประณามเหตุการณ์ที่ชาวปาเลสไตน์เป็นฝ่ายทำร้ายชาวยิวเลย
เหตุกระทบกระทั่งภายในมัสยิด อัล-อักซอ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากชาวปาเลสไตน์เกรงว่ารัฐบาลอิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวยิวเข้าไปสวดมนต์ภายในศาสนสถานดังกล่าวได้
อาณาเขตทั้งหมดของมัสยิดอัล-อักซอ หรือที่ชาวมุสลิมเรียกขานว่า “อัล-หะรอม อัล-ชารีฟ” เป็นศาสนสถานที่สำคัญเป็นอันดับ 3 รองจากนครเมกกะ และเมืองมะดีนะห์ในซาอุดีอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม ชาวยิวก็ถือว่าสถานที่นี้คือ “เนินวิหาร” (Temple Mount) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารกษัตริย์เฮรอดที่ถูกทำลายโดยกองทัพโรมันเมื่อราวคริสตศักราชที่ 70 และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนายิว
มัสยิดอัล-อักซอ ถือเป็นพื้นที่เปราะบางที่สุดในเยรูซาเล็ม และมักเกิดการปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลบ่อยครั้ง