xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญชี้ บ.เจ้าของ “สเปซชิปทู” ละเลยคำเตือนด้านความปลอดภัยก่อน “ยานระเบิด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในศาสตร์ด้านยานอวกาศระบุวานนี้ (2 พ.ย.) ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เวอร์จิน กาแลกติกได้ “ละเลย” คำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่า จนเป็นเหตุให้ยานท่องเที่ยวอวกาศ “สเปซชิปทู” ระเบิดตกกระจายในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ และคร่าชีวิตนักบินไป 1 คน ขณะที่บรรดาพนักงานสืบสวนยังคงสืบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

แคโรลีนน์ แคมป์เบล ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงขับเคลื่อนยานอวกาศ ของสมาคมเพื่อความก้าวหน้าของความปลอดภัยในอวกาศนานาชาติ ที่มีฐานในเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า เธอไม่สามารถคาดคะเนสาเหตุของอุบัติเหตุยานอวกาศระเบิดเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) หากยังไม่มี “ข้อมูลทั้งหมด”

อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า เวอร์จิน กาแลกติก ได้รับคำเตือนในเรื่องมอเตอร์ และเชื้อเพลิง จากทางสมาคมหลายครั้งหลายหน นับตั้งแต่ปี 2007 ภายหลังมีวิศวกร 3 คนเสียชีวิตในการทดสอบยานอวกาศบนพื้นดิน

เธอกล่าวกับเอเอฟพีว่า “จากงานที่เราศึกษา รวมถึงในส่วนที่ดิฉันได้เขียนบทความเรื่องการรับมือกับแก๊สไนตรัสออกไซด์ เราจึงรู้สึกกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่เวอร์จิน กาแลกติก”

“ดิฉันได้ส่งสำเนาบทความดังกล่าวไปให้บุคคลหลายท่านที่เวอร์จิน กาแลกติก ตั้งแต่ปี 2009 แต่พวกเขาก็เพิกเฉย”

แคมป์เบลกล่าวว่า เธอได้ต่อสายถึง เวอร์จิน กาแลกติก เพื่อย้ำถึงความกังวลในเวลาต่อมา แต่คำเตือนของเธอยังไม่ได้รับความสนใจ

เธอกล่าวว่า “ดิฉันได้เตือนพวกเขาแล้ว... ว่าเครื่องยนต์ยานอวกาศอาจก่ออันตราย”

แคมป์เบลได้ออกโรงเตือนถึงเรื่องไนตรัสออกไซด์ ซึ่งมีรายงานว่า ถูกใช้เป็นส่วนประกอบเชื้อเพลิงของยานอวกาศเคราะห์ร้ายลำนี้ ตลอดจนสสารใหม่ที่ทำจากเม็ดพลาสติกไนลอน

ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนจากคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ถูกส่งไปยังทะเลทรายโมฮาวี เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุเมื่อวันศุกร์ (31) ที่คร่าชีวิต ไมเคิล อัลส์เบอรี นักบินของยานลำนี้ และทำให้ พีท ซีโบลด์ นักบินร่วมบาดเจ็บสาหัส

*** ไม่มีวี่แววว่าจะระเบิด ***

บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ (31) ชี้ว่า ไม่มีวี่แววว่า ยานอวกาศแบบวงโคจรย่อย “สเปซชิปทู” ของเวอร์จินจะระเบิดและพุ่งโหม่งโลก หลังจากทะยานออกจากยานแม่ที่ความสูงราว 45,000 ฟุตได้เพียงไม่นาน

อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นภัยพิบัติที่สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมอวกาศเอกชน ครั้งที่สองในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ภายหลังจรวดขนส่ง “แอนทาเรส” ที่เตรียมลำเลียงเสบียงไปยัง ณ สถานีอวกาศนานาชาติเกิดระเบิดหลังทะยานจากฐานปล่อยจรวดที่มลรัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28)

เหล่าผู้สันทัดกรณีชี้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้จะส่งผลให้ยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์ล่าช้าไปอีกนานหลายปี

เวอร์จิน กาแลกติก คาดหวังที่จะเริ่มพาลูกค้าฐานะร่ำรวยไปยังขอบอวกาศในปีหน้า โดยคิดค่าใช้จ่ายคนละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตั๋วโดยสารยานพาหนะ 6 ที่นั่งของบริษัท

คริสโตเฟอร์ ฮาร์ต รักษาการประธาน NTSB กล่าวว่า ขั้นตอนการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้นอาจใช้เวลา 1 สัปดาห์ แต่การสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบที่มีทั้งการสืบหาข้อเท็จจริง และวิเคราะห์นั้น “อาจใช้เวลานาน 12 เดือนหรือราวๆ นั้น”

ฮาร์ต ระบุว่า ซากของยานลำนี้กระจัดกระจายเป็นวงกว้างในอาณาบริเวณ 8 กิโลเมตร

ฮาร์ต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนต่างคาดหมายว่าจะพบเบาะแส ที่ทำให้สาวไปถึงต้นตออุบัติเหตุครั้งนี้จากข้อมูลระบบโทรมาตร (ระบบตรวจวัดและส่งข้อมูลทางไกลอัตโนมัติ) ปึกหนา และคลิปวีดีโอ
คริสโตเฟอร์ ฮาร์ต รักษาการประธานกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติ (์NTSB)
เจ้าสัว “แบรนสัน” โต้เจ็บแสบ หลังผู้เชี่ยวชาญชี้ “เวอร์จิน” ไม่ฟังคำเตือน ก่อน “ยานสเปซชิปทู” ตก
เจ้าสัว “แบรนสัน” โต้เจ็บแสบ หลังผู้เชี่ยวชาญชี้ “เวอร์จิน” ไม่ฟังคำเตือน ก่อน “ยานสเปซชิปทู” ตก
ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าสัวคนดังชาวอังกฤษซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีดำเนินโครงการท่องเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์ ออกโรงอีกครั้งในวันจันทร์ (3 พ.ย.) เพื่อตอบโต้พวกนักวิจารณ์ “ที่คอยแต่สร้างความเจ็บปวด” และ “พวกที่อ้างตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ” ภายหลังที่มีนักวิทยาศาสตร์ด้านจรวดผู้หนึ่งเปิดเผยว่า บริษัทเวอร์จิน กาแลกติก ของแบรนสัน เพิกเฉยละเลยคำเตือนด้านความปลอดภัยหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนยานสเปซชิปทูระเบิดเมื่อวันศุกร์ (31ต.ค.) ที่แล้ว ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง ทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนของทางการสหรัฐฯพบฟังก์ชันความปลอดภัยบางอย่างของยานลำนี้ทำงานก่อนกำหนด แม้ยังไม่ฟันธงว่า เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น