เอเอฟพี – วานนี้ (1 พ.ย.) ประชาชนชาวบราซิลออกมารวมตัวประท้วงอย่างเกรี้ยวกราดบนท้องถนนในกรุงเซาเปาลู เพื่อขับไล่ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ พร้อมกล่าวโจมตีว่า เธอควรถูกขับออกจากตำแหน่ง
ประชาชนประมาณ 2,500 คนเดินขบวนผ่านเขตอุตสาหกรรม และย่านธุรกิจอันกว้างขวางของแดนแซมบ้า ด้วยความไม่พอใจที่เธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำอีกสมัย ขณะที่เหล่านักวิจารณ์ต่างเป็นกังวลว่า รัฐบาลของเธออนุญาตหรือเปิดทางให้มีการคอร์รัปชัน
ผู้เดินขบวนจำนวนมากนัดรวมตัวกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และตะโกนว่า “ดิลมา ออกไป” และ “พีที (พรรคแรงงาน) ออกไป”
มาเรีย ลูเซีย มอนเตย์โร คุณครูวัย 61 ปี กล่าวว่า “เรามาที่นี่เพื่อเรียกร้องให้ ดิลมา ถูกปลดจากตำแหน่ง และเพือแสดงออกว่า เราต้องการให้พรรคแรงงานออกไป”
“เราต้องการใหพวกเขาออกไป พวกเขาควรก้าวลงจากตำแหน่ง”
ในการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิลมา ได้รับเสียงสนับสนุนมากมายจากประชาชนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีฐานะยากจน และประชาชนหลายล้านคนได้รับเงินสงเคราะห์จากโครงการสวัสดิการโครงการใหญ่ที่พรรคแรงงานของรูสเซฟฟ์ดำเนินในช่วงหนึ่งสัปดาห์ทศวรรษที่ผ่านมา
โครงการนี้ช่วยให้ประชาชนราว 40 ล้านคน ซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของรูสเซฟฟ์รอดพ้นจากความยากจนข้นแค้น ในยามที่บรรดานักธุรกิจแดนแซมบ้าเทคะแนนให้ แอซิโอ เนเบส
อย่างไรก็ตาม ทางตอนใต้ของบราซิลที่มีความเจริญมากกว่า คนจำนวนมากที่ต้องการให้ เนเบส เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้นำแทนรัฐบาลพรรคแรงงานที่ดำรงตำแหน่งมานาน 12 ปี ได้กล่าวโทษว่า ประชาชนทางภาคเหนือทำให้รูสเซฟฟ์ชนะการเลือกตั้งเข้ามาอย่างฉิวเฉียด
ประชาชนทางภาคใต้ของบราซิลจำนวนมากกล่าวหาว่า คนเหนือปิดหูปิดตาทำเป็นมองไม่เห็นความผิดพลาดของพรรครัฐบาลแดนแซมบ้า ขณะที่ รูสเซฟฟ์ ต้องต่อสู้กับกรณีอื้อฉาวเรื่องการจ่ายสินบนให้บรรดาพันธมิตรทางการเมืองในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ “เปโตรบราส” ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ
มาร์ลอน เลาเบ นักเศรษฐศาสตร์วัย 31 ปีกล่าวว่า ในวาระแรก “ดิลมาทำให้ประเทศกลายเป็นหนี้ และทำให้เศรษฐกิจบราซิลถดถอย ผมจึงต้องออกมา (ประท้วง) ที่นี่”
“นอกจากนี้ ผมมั่นใจว่ามีการโกงการเลือกตั้งคราวนี้ ผมไม่เคยออกมาประท้วงบนถนนมาก่อน แต่ตอนนี้ผมก็ออกมาที่นี่”