เอเอฟพี – โมนิกา ลูวินสกี อดีตเจ้าหน้าที่ฝึกงานในทำเนียบขาวซึ่งเคยมีสัมพันธ์สวาทกับอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ขึ้นเวทีเปิดใจเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีเมื่อวานนี้(20) โดยเล่าว่าตนถูกเยาะเย้ยและข่มขู่สารพัดในโลกออนไลน์ และกลายเป็น “ผู้ป่วยรายแรก” (Patient Zero) หลังจากไปตกหลุมรักผู้นำประเทศซึ่งมีลูกเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
ระหว่างกล่าวปราศัยในการประชุม Inaugural Forbes Under 30 Summit ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ลูวินสกี ซึ่งเวลานี้เป็นสาวใหญ่วัย 41 ปี ได้เปิดเผยความทุกข์ที่เธอต้องเผชิญมาโดยตลอดหลังตกเป็นข่าวฉาวกับ คลินตัน เมื่อปี 1998 พร้อมประกาศตัวเป็นนักรณรงค์ต่อต้านการข่มขู่ทางสื่อออนไลน์
ลูวินสกี บอกกับผู้ฟังในห้องประชุมว่า เธออาจเป็น “บุคคลแรกที่ถูกทำลายชื่อเสียงจนป่นปี้โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก”
“ดิฉันเป็นผู้ป่วยรายแรก (Patient Zero)… สมัยนั้นยังไม่มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม แต่มีเว็บไซต์ที่เสนอข่าวซุบซิบ บันเทิง และมีพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้าไปแสดงความคิดเห็น หรือส่งอีเมล์ต่อๆ กันไปได้”
“สิ่งเหล่านี้ถูกกระทำผ่านอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อทางโทรศัพท์ (dial-up) ซึ่งช้ามากก็จริง แต่ข่าวก็แพร่ไปทั่วโลก เป็นกลายเป็นปรากฏการณ์ระบาดที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเวลาแห่งสื่อสังคมออนไลน์อย่างแท้จริง”
สาวร่างอวบผมสีน้ำตาลเข้มเล่าว่า เธอรู้สึกทั้งอับอายและเครียด และหลายครั้งคิดที่จะ “ฆ่าตัวตาย”
“มีอยู่วันหนึ่งดิฉันนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ และได้แต่ตะโกนว่า โอ้พระเจ้า! ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะพูดอย่างนั้น มันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด”
“และนั่นคือกระแสความคิดที่เข้ามาแทรก เวลาที่ดิฉันคิดวนเวียนอยู่อย่างเดียวว่า ฉันอยากตาย”
ลูวินสกี บอกว่า เธอได้แรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นสู้กับการข่มขู่ทางสื่อออนไลน์ หลังทราบข่าวการฆ่าตัวตายของนักศึกษาชายปี 1 วัย 18 ปีที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพราะความอับอายที่ถูกแอบถ่ายวีดีโอขณะกำลัง “จูบ” เพื่อนชายอีกคน
“เมื่อดิฉันเองมีชีวิตอยู่มาได้แล้ว สิ่งที่อยากจะทำต่อไปก็คือช่วยเหลือเหยื่อคนอื่นๆ ที่ได้รับความอับอายให้มีชีวิตอยู่ต่อได้เช่นกัน... ดิฉันอยากใช้ความทุกข์ทรมานที่เคยได้รับให้เป็นประโยชน์ และทำให้อดีตมีความหมายขึ้นมาบ้าง”
ลูวินสกี ได้เปิดบัญชีทวิตเตอร์ @MonicaLewinsky โดยระบุสถานะของตนเองว่าเป็นนักเคลื่อนไหว นักบรรยาย ผู้สนับสนุนนิตยสารแวนิตีแฟร์ และ “ช่างถักสิ่งของต่างๆ ที่ไม่มีปลอก” ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนมากดติดตามทวิตเตอร์ของเธอมากกว่า 18,000 คน
มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาวชาวปากีสถานซึ่งถูกกลุ่มตอลิบานยิงศีรษะจนอาการปางตายเมื่อปี 2012 และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ ก็จะขึ้นปราศรัยในเวทีของฟอร์บสที่เมืองฟิลาเดลเฟียในวันนี้(21)ด้วย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลูวินสกี ได้ให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารแวนิตีแฟร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเธอกับ บิล คลินตัน โดยเธอเขียนว่า “ฉันตั้งใจจะทำให้เรื่องนี้มีตอนจบที่เปลี่ยนไป ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะโผล่หัวออกมาเหนือกำแพง เพื่อจะได้มีโอกาสพูด และทำให้อดีตของฉันมีความหมาย”
หลังข่าวสัมพันธ์สวาทถูกเปิดโปง ประธานาธิบดี คลินตัน ก็ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติขับออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม ปี 1998 ทว่าต่อมาวุฒิสภาได้ลงความเห็นว่าเขาไม่ผิด
ด้าน ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้งในปี 2016 ระบุว่าเธอได้ “ก้าวข้าม” เรื่องอื้อฉาวของสามีมานานแล้ว