xs
xsm
sm
md
lg

In Pics: “สหรัฐฯ”ยืนยัน กฎอัยการศึกไม่ทำให้คว่ำบาตรไทย -นิวัตรธำรงค์เตือนกองทัพไทย “อย่าล้ำเส้น” หมีขาวให้นักท่องเที่ยวเลื่อนเดินทาง- เทเลกราฟต์ยืนยันกทม.ปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์/ASTV – วันอังคาร(20)สหรัฐฯยืนยันว่า การประกาศใช้กฏอัยการศึกเมื่อวานนี้(20)ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของไทยจะไม่ทำให้ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร ด้านรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย นิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาลเตือนกองทัพไทยให้ปฎิบัติอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ และยืนยันเดินหน้าจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์กฎอัยการศึก ในขณะที่การท่องเที่ยวรัสเซียเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง และหากเป็นไปได้ให้เลื่อนวันการเดินทางหรือเปลี่ยนประเทศเป้าหมายในการพักผ่อนในช่วงไทยยังประกาศใช้กฏอัยการศึก ในขณะที่สื่ออังกฤษ หนังสือพิพม์เทเลกราฟต์รายงานว่า สถานการณ์ทั่วไปในกรุงเทพฯสงบและแหล่งท่องเที่ยวเปิดตามปกติ ประชาชนใช้ชีวิตประจำวันเช่นเดิมแต่มีสีสันร่วมถ่ายภาพกับเหล่าทหารเป็นที่ระลึก

เอพีรายงานเมื่อวานนี้ว่า (20) เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศระดับสูงของสหรัฐฯด้านเอเชียตะวันออก เรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้งทั่วไปที่ขาวสะอาดและยุติธรรมอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กองทัพได้เข้าแทรกแซงในวันอังคาร(20)หลังจากไทยต้องประสบปัญหากับความไม่สงบทางการเมืองมาไม่ต่ำกว่าครึ่งปี

แต่กลุ่มฮิวแมนไรท์วอชได้วิพากษ์วิจารณ์ที่รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ยอมประกาศเรียกร้องให้ไทยยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกทันที โดยอ้างว่าเป็นหนทางลัดที่สุดที่จะนำกลับไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง

ทั้งนี้กองทัพไทยได้อ้างว่าการประกาศใช้กฏอัยการศึกนั้นไม่ใช่การทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายสิบครั้งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทย แต่กฎอัยการศึกได้ควบคุมการนำเสนอข่าวและโซเชียลมีเดีย ในทีวีดาวเทียม 14 ช่องของทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่ถูกบังคับให้หยุดออกอากาศ

ไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯในเอเชียและมีความใกล้ชิดด้านการทหาร แต่ภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯที่ยังไม่เคยถูกฉีกแม้แต่ครั้งเดียว การคว่ำบาตรจะมีผลทันทีต่อประเทศที่สหรัฐฯให้ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งจากเหตุการณ์ยึดอำนาจในอียิปต์ สหรัฐฯเลี่ยงที่จะไม่ใช้คำว่า “รัฐประหาร” เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาในการต้องประกาศการคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการทันทีในวินาทีที่อดีตประธิบดีอียิปต์ โมฮาเหม็ด มอร์ซีถูกขับออกจากตำแหน่ง และผลของการทำรัฐประหารของกองทัพไทยในปี 2006 ทำให้เพนตากอนระงับความช่วยเหลือด้านการทหารกับไทยเป็นระยะเวลาถึง 1 ปีครึ่งก่อนที่จะมีการจัดเลือกตั้งทั่งไปขึ้นอีกครั้ง

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เจน ซากี การประกาศกฎอัยการศึกและท่าทีกองทัพไทยจนกระทั่งล่าสุดยังไม่ทำให้สหรัฐฯต้องประกาศมาตรการคว่ำบาตร แต่สหรัฐฯหวังว่า กองทัพไทยคงจะทำตามที่ประกาศว่า กฏอัยการศึกถูกใช้ชั่วคราวเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะลุกลามในอนาคต และจะเคารพในสถาบันที่มีอำนาจทางรัฐธรรมนูญ ได้แก่ รัฐสภา รวมถึงเสรีภาพของสื่อสารมวลชน

“เหมือนกับที่ทุกคนทราบ กฏอัยการศึกถูกบัญญัติไว้ในกฏหมายรัฐธรรมนูญไทย แต่แน่นอนที่สุดที่สหรัฐฯจะจับตาอย่างใกล้ชิดถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในไทย และจะประเมินถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” ซากีให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวประจำวัน

ในขณะที่กลุ่มฮิวแมนไรท์วอช แถลงถึงท่าทีของสหรัฐฯต่อการประกาศกฏอัยการศึกไทยว่า รู้สึกกังวลที่สหรัฐฯยอมรับการยึดอำนาจทหารของทหารจากการปกครองโดยพลเรือน “แทนที่จะตั้งข้อกล่าวหากองทัพไทย หรือยืนยันว่ากฎอัยการศึกถูกกำหนดภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญไทย สหรัฐฯควรเรียกร้องให้ไทยยุติการใช้กฏอัยการศึกทันที” จอห์น ซิฟตัน ผู้อำนวยการกลุ่มฮิวแมนไรท์วอช Asia advocacy ที่มีฐานในนิวยอร์ก

ในขณะที่รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย นิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล ได้ออกแถลงการณ์ว่า “รัฐบาลไทยหวังเช่นเดียวกันต่อเสถียรภาพของชาติ และหวังว่ากองทัพไทยจะใช้กฏอัยการศึกเพื่อสันติและความเท่าเทียมโดยปราศจากความรุนแรง และการกระทำของกองทัพไทยต้องดำเนินการภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขแห่งรัฐ”

นอกจากนี้ บีบีซีรายงานว่า รักษาการนายกฯนิวัฒน์ธำรงค์ยังได้เปิดเผยว่า มีหลายประเด็นที่ต้องปรึกษากับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.)รวมไปถึง การจัดเลือกตั้ง และการปฎิรูป โดยได้มีโอกาสพูดคุยพลเอกประยุทธ์ กันบ้างแล้ว

และนิวัฒน์ธำรงค์ยังยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งท่ามกลางการประกาศใช้กฏอัยการศึก โดยได้เข้าปรึกษาคณะกรรมการเลือกตั้งเพื่อที่จะขอให้มีการจัดเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 สิงหาคม ทั้งนี้ ประธานกกต. สมชัย ศรีสุทธิยากรได้กล่าวว่า จะมีการประชุมกกต.เพื่อหาฉันทามติว่าจะเดินหน้าจัดเลือกตั้งทั่วไปในต้นเดือนสิงหาคมตามที่รัฐบาลร้องขอได้หรือไม่

ในขณะที่นักข่าวบีบีซี โจนาธาน เฮด ได้วิเคราะห์ถึงการประกาศกฏอัยการศึกในไทยล่าสุดว่า ทางกองทัพยืนยันว่า การใช้กฎอัยการศึกไม่ใช่การยึดอำนาจ และพยายามที่จะให้มีปฎิบัติการทางทหารในที่สาธารณะน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งฝ่ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และฝ่ายสนับสนุนกลุ่มเสื้อแดงเชื่อในคำพูดของผู้นำกองทัพที่ประกาศว่า จะไม่ยึดอำนาจ

แต่ทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งยืดเยื้อทางการเมืองที่มียาวนานกว่า 8 ปีได้ และถ้ากองทัพไทยทำแต่เพียงรักษาเถียรภาพของประเทศ ปัญหาก็จะสะสมต่อไป และรัฐบาลไทยก็จะตกอยู่ในสภาพเป็นง่อย

แต่ถ้าหากกองทัพไทยพยายามกระทำเหมือนอย่างที่เคยทำมา ซึ่งในขณะนี้เสมือนไทยตกอยู่ภายใต้สถานการณ์รัฐประหารไปแล้วครึ่งหนึ่ง ก็จะทำให้เป็นการยึดอำนาจที่สมบูรณ์ และกลุ่มเสื้อแดงได้ลั่นวาขาว่าจะลุกฮือและต่อต้านอย่างถึงที่สุด”

อย่างไรก็ตาม โจนาห์ ฟิเชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีอีกคนได้รายงานว่า ในขณะเดียวกัน กลุ่มกปปส.ที่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ประกาศที่จะไม่รับการเลือกตั้งทั่วไปในแนวทางที่จะเป็นทางออกทางการเมือง ซึ่งผู้นำกลุ่มกปปส สุเทพ เทือกสุบรรณ ลุกขึ้นประกาศต่อหน้าผู้ชุมนุมว่า “กฏอัยการศึกไม่ขัดขวางการลุกขึ้นสู้ของทางกลุ่ม ทางกปปสยังคงสงวนสิทธิ์ในการเดินหน้าขับไล่รัฐบาลทรราชต่อไป” สุเทพกล่าว

ในทวิตเตอร์ของกองประชาสัมพันธ์กองทัพไทย แถลงว่า “การประท้วงของทั้งสองฝ่ายในกรุงเทพฯยังคงดำเนินการต่อไปได้ในจุดที่กำหนดไว้โดยแยกกันเพื่อกันไม่ให้เกิดการปะทะ”

และสำนักข่าวอิตาร์ ทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า องค์การการท่องเที่ยวรัสเซีย(Rostourism)ได้ออกแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวพลเมืองรัสเซียให้ระมัดระวังตัวเมื่อเดินทางพักผ่อนในไทยในขณะที่กองทัพไทยประกาศใช้กฏอัยการศึก รวมไปถึงหลีกเลี่ยงสถานที่มีผู้คนชุมนุมเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการเดินทางเข้ามาภายในเมืองหลวงของไทย และให้เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย

ซึ่งการท่องเที่ยวรัสเซียกล่าวต่อว่า ถึงแม้พบว่าแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่นักท่องเที่ยวรัวเซียนิยม เช่น ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เกาะช้าง และหัวหิน ยังสงบและไม่ได้รับผลกระทบจากกฏอัยการศึกแต่อย่างใด

ทั้งนี้อีรินา เชโกลโควา ( Irina Shchegolkova)ผู้อำนวยการ Rostourismให้สัมภาษณ์อิตาร์ ทสส์เมื่อวานนี้(20)ว่า เพื่อประโยชน์ของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ควรจะเลื่อนกำหนดการเดินทางมายังไทยในช่วงนี้ หรือควรเปลี่ยนจุดหมายเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นแทน

ด้านหนังสือพิพม์เทเลกราฟต์ สื่ออังกฤษรายงานว่า ถึงแม้จะมีรายงานกองทัพไทยเข้าควบคุมสื่อองประเทศ แต่คนไทยยังใช้ชีวิตปกติทั่วไป และมีประชาชนบางส่วนที่ได้ถือโอกาสถ่าย “เซลฟี” ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ยืนปฎิบัติหน้าที่

“จริงอยู่มีกองกำลังติดอาวุธประจำตามจุดต่างๆทั่วกรุงเทพฯ แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปมีบางส่วนได้ถอนกำลังกลับ” ริชาร์ด บาร์โรว์ นักท่องเที่ยวบล็อกเอร์ที่ปัจจุบันอยู่ในไทยกล่าว และเสริมว่า “ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทุกคนเดินทางไปทำงานตามปกติ รวมไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายประจำอยู่ในที่ตั้งของตนเอง ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปคงไม่เห็นผู้ประท้วง และอาจไม่มีโอกาสเห็นทหาร”

ทางด้านโฆษกการท่องเที่ยวไทย หรือ ทอท. กล่าวว่า “สถานการณ์ในกรุงเทพฯยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นแต่จะพบกองกำลังทหารยืนประจำบนท้องถนน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้ฝ่ายประท้วงอยู่แต่ในที่ตั้ง” และเสริมว่า “การประกาศกฏอัยการศึกไม่มีผลกับระบบการขนส่งสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงสนามบิน และห้างสรรพสินค้า ที่ยังเปิดทำการปกติ และยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเทพฯ หรือแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติสามเดินทางได้ตามปกติ”

และฮาเยส และเจวิส เทรเวล เอเจนซี ของอังกฤษให้ความเห็นว่า ติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ทุดอย่างดูปกติ และนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวตามแผนเดิมที่กำหนดไว้

รัฐบาลไทยได้ลดตัวเลขคาดการณ์การท่องเที่ยวประจำปี 2014ลงเหลือ 26.3 ล้านคน จาก28.4 ล้านคน โดยโทษเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อ



















กำลังโหลดความคิดเห็น