โอบามาป้อง รบ.กลาง - ตำหนิแผนกักกันโรค จนท.สาธารณสุขกลับจาก ปท.อีโบลา

รอยเตอร์ - พยาบาลคนที่ 2 ที่ติดเชื้อระหว่างดูแลคนไข้อีโบลาออกจากโรงพยาบาลแอตแลนตาแล้ว หลังจากฟื้นไข้ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา บอกเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) ว่า นโยบายต่างๆ ที่บังคับใช้ในสหรัฐฯ ไม่ควรกัดเซาะกำลังใจอเมริกันชนที่มีความตั้งใจเข้าต่อสู้กับโรคระบาดนี้ในแอฟริกาตะวันตก ภายหลังหลายมลรัฐออกมาตรการกักกันโรคอย่างเข้มงวด จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ประธานาธิบดี โอบามา ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มลรัฐต่างๆ รวมถึงนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ กำหนดมาตรการกักกันโรคโดยอัตโนมัติ 21 วันต่อแพทย์และพยาบาลที่กลับจาก 3 ชาติแอฟริกาตะวันตก ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด ซึ่งมีความเข้มข้นเกินกว่าคำแนะนำของรัฐบาลกลาง

“เราไม่ควรทำลายกำลังใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเราที่กลับจากแถวหน้า และต้องจัดการกับเรื่องนี้ในแนวทางที่ได้ผลที่แท้จริง” โอบามาบอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว พร้อมระบุว่าคณะด้านการแพทย์เหล่านี้ ที่หลายคนอาสมัครเข้าร่วมทำงานกับกลุ่มสิทธิมนุษธรรมสากลต่างๆ ควรได้รับเสียงปรบมือ คำขอบคุณและแรงสนับสนุนมากกว่า “เราสามารถสร้างความเชื่อมั่นตอนที่พวกเขากลับมา พวกเขาจะถูกสังเกตอาการในรูปแบบที่ระมัดระวัง แต่เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าพวกเขากำลังทำงานของพระเจ้าที่นั่น พวกเขาทำงานเพื่อช่วยให้เราปลอดภัย”

บางมลรัฐกำหนดมาตรการป้องกันตนเองต่างๆ ในนั้นรวมถึงกักกันโรคโดยอัตโนมัติต่อแพทย์และพยาบาลที่กลับจาก 3 ชาติแอฟริกาตะวันตก โดยบอกว่านโยบายของรัฐบาลกลางไม่เพียงพอต่อการปกป้องประชาชน ขณะที่ ส.ส. บางส่วน โดยเฉพาะจากรีพับลิกัน วิพากษ์วิจารณ์มาตรการของรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา ว่าไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐบาลกลางและคนอื่นๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์มาตรการที่เข้มข้นของมลรัฐเหล่านั้นว่ามันอาจก่อผลในทางตรงกันข้าม โดยบอกว่ามันอาจทำให้แพทย์และผู้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุขอื่นๆ ของสหรัฐฯ ไม่อยากที่จะอาสาไปช่วยต่อสู้กับอีโบลาที่แหล่งต้นตอในแอฟริกาตะวันตก

บุคคลด้านการแพทย์ที่ถูกกักกันภายใต้นโยบายของมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ คือ เคซี ฮิกค็อกซ์ พยาบาลที่เพิ่งกลับจากไปดูแลผู้ป่วยอีโบลาในเซียร์ราลีโอน แต่ถูกกักกันโรคในเตนท์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของนวร์ก ที่เจ้าตัวบอกว่ารู้สึกเหมือนถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

อีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าความหวาดกลัวต่ออีโบลานั้น ส่งผลกระทบต่อชุมชนต่างๆ มากน้อยแค่ไหน นั่นก็คือกรณีที่มีคุณพ่อรายหนึ่งฟ้องร้องโรงเรียนประถมในคอนเนตติคัตเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) หลังอ้างว่าลูกสาวของเขาถูกเลือกที่รักมักที่ชัง และโดนห้ามไปโรงเรียนเป็นพื้นฐานแห่งความวิตกที่ไร้เหตุผล เพียงเพราะว่าเธอไปร่วมงานแต่งงานที่ไนจีเรียเท่านั้น

ในแอตแลนตา พยาบาลแอมเบอร์ วิลสัน วัย 29 ปี ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีโมรีแล้ว หลังถูกประกาศว่าปลอดเชื้ออีโบลาเมื่อวันศุกร์ (24) ที่แล้ว

ทั้งนี้ วิลสัน เป็น 1 ใน 2 พยาบาลที่ติดเชื้อไวรัสมรณะขณะให้การดูแล นายโทมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลารายแรกที่แสดงอาการในสหรัฐฯ ขณะที่อีกคนคือ นีนา ฟาม ก็ได้รับการประกาศให้ปลอดเชื้อไวรัสมรณะในวันเดียวกัน และออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่วันนั้น