รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (27ต.ค.) เรียกร้องกลุ่มคนซึ่งมีความเสี่ยงสูง สมัครใจแยกเดี่ยวตนเองภายในบ้านพัก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของอีโบลา แต่แนะให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาตะวันตก แค่เข้าสังเกตอาการแบบรายวันโดยไม่ต้องกักกันโรค ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อมาตรการที่เข้มข้นเกินไปของหลายมลรัฐ
ถ้อยแถลงของ ดอคเตอร์โธมัส ไฟรเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) เป็นความเคลื่อนไหวที่ขัดแย้งกับหลายมลรัฐในนั้นรวมถึงนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ที่ออกคำสั่งกักกันโรคแพทย์และพยาบาลที่เพิ่งกลับจากการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก
ไฟรเดน บอกว่า ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงสูงนั้น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เผลอถูกเข็มฉีดยาทิ่มขณะรักษาคนไข้อีโบลา และบุคคลที่ช่วยดูแลผู้ป่วยโดยไม่ได้สวมชุดป้องกัน
ภายใต้คำแนะนำใหม่ของซีดีซีได้จัดระดับความเสี่ยงออกเป็น 4 กลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เดินทางกลับจากจุดแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “มีความเสี่ยงติดเชื้ออยู่บ้าง” ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลคนไข้ไวรัสมรณะตามสถานพยาบาลต่างในสหรัฐฯ ถูกมองในฐานะ “เสี่ยงต่ำ” แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลย
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บอกว่าอีโบลาติดต่อยาก โดยจะแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับสารคัดคลั่งของบุคคลที่ติดเชื้อโดยตรงเท่านั้น แต่ไวรัสมรณะชนิดนี้จะยังไม่สามารถติดต่อจนกว่าผู้ป่วยจะมีอาการป่วย ขณะเดียวกัน มันก็ไม่แพร่กระจายทางอากาศ
กระนั้นก็ตามด้วยยอดผู้เสียชีวิตหลายพันคนในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และ กินี จึงมีความกังวลอย่างสูงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่บางรัฐซึ่งไม่คุ้นเคยกับภัยคุกคามด้านสาธารณสุข เรียกร้องรัฐบาลกลางออกข้อจำกัดต่างๆ ต่อผู้คนที่เดินทางจากมาเหล่าชาติที่ได้รับผลประทบจากอีโบลา เพื่อป้องกันอเมริกันชนและยกระดับมาตรการต่างๆ ให้เข้มข้นขึ้น อย่างเช่นกักกันโรคโดยอัตโนมัติต่อคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เดินทางกลับมาจากไปช่วยรักษาผู้ป่วยไวรัสมรณะในแอฟริกาตะวันตก
กรณี เคซี ฮิกค็อกซ์ พยาบาลที่กำลังถูกกักกันโรค เมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) หลังเธอกลับจากไปดูแลผู้ป่วยอีโบลาในเซียร์ราลีโอน ภายใต้นโยบายของมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่เกินกว่ามาตรการป้องกันไว้ก่อนที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯบังคับใช้ ย้ำให้เห็นถึงสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกระหว่างรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างๆ
ทั้งนี้ แม้ว่าเธอได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลแล้วในวันจันทร์ (27 ต.ค.) แต่ทางมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ ยังยืนยันว่าจะบังคับใช้นโยบายนี้ต่อไป
