เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ในไลบีเรียจะเริ่มต้นการผละงานในเที่ยงคืนวันจันทร์(13)นี้เป็นต้นไปหลังจากรัฐบาลไลบีเรียล้มเหลวในการหาขอสรุปเรื่องค่าตอบแทนที่เหมาะสมในประเทศที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางระบาดของโรคอีโบลาที่คร่าชีวิตชาวไลบีเรียไปกว่า 2,000 คน ซึ่งทางสหภาพเจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียต้องการค่าตอบแทน 1,200 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับพยาบาลในหอผู้ป่วยอีโบลา พร้อมประกันชีวิต และต้องการสถานที่ทำงานที่ปลอดเชื้อมากกว่านี้สวนทางกับความเป็นจริงที่ได้รับเพียง 80 ดอลลาร์ต่อเดือน
เจ้าหน้าที่การแพทย์ในไลบีเรียจำนวนมากเริ่มต้นประท้วงผละงานเพื่อเรียกร้องค่าตอบแทนในวันจันทร์(13)เพื่อร้องขอค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับเจ้าหน้าที่แนวหน้าที่ต้องปฎิบัติงานกับคนไข้โรคอีโบลา และการผละงานครั้งนี้ส่งผลทำให้เกิดความพยายามในการกำจัดอีโบลาของรัฐบาลไลบีเรียต้องมีอุปสรรค
โดยสหภาพเจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียที่ประกอบได้วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านอื่นต้องการให้มีค่าตอบแทนที่เหมาะสม รวมไปถึงการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมสำหรับการทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ในแอฟริกาตะวันตกต้องจบชีวิตเป็นจำนวนมากเพราะอีโบลา และในสัปดาห์ที่ผ่านมาอีโบลาได้คร่าชีวิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไปอย่างน้อย 2 คน
อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่การแพทย์บางส่วนได้เริ่มผละงานก่อนหน้านี้โดยอ้างว่า ที่โรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ป้องกันโรคอีโบลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะทำให้มีความมั่นใจสามารถทำงานต่อไปได้ แต่ จอร์จ วิลเลียมส์ (George Williams) เลขาธิกาใหญ่สมาพันธ์เจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งชาติไลบีเรีย หรือ National Health Workers Association of Liberia ที่มีสมาชิกถึง 10,000 คนกล่าวว่า ทางสมาพันธ์ต้องการเรียกร้องเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้ปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยอีโบลาขึ้นราว 12,000 ดอลลาร์ต่อเดือน รวมไปถึงประกันสุขภาพ และปรับปรุงให้สถานทำงานมีความปลอดเชื้อเพิ่มมากขี้น
โดยวิลเลียมส์ระบุว่า ในขณะนี้เจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียได้รับค่าตอบแทนราว 80 ดอลลาร์ ซึ่งต่างจากอัตราทางการระบุไว้เกือบ 500 ดอลลาน์
Tolbert Nyenswah ผู้ช่วยสาธารณสุขไลบีเรีย ให้สัมภาษณ์เอพีว่า ผู้ทำงานในวงล้อมโรคอีโบลาได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าเมื่อเริ่มการระบาดของที่ 700 ดอลลาร์ มาจนถึงในอัตราปัจจุบันที่ 435 ดอลลาร์ต่อเดือนเพราะจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งตัวแทนจากเจ้าหน้าที่การแพทย์และรัฐบาลไลบีเรียได้ร่วมเจรจาในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาและต้องเข้าสู่โหมดล็อกทางการเมืองเพราะรัฐบาลไลบีเรียปฎิเสธจะทำตามข้อเสนอของทางสมาพันธ์ และวิเลียมส์กล่าวต่อว่า “เป็นความผิดของรัฐบาลไลบีเรีย ดังนั้นหากประชาชนไลบีเรีนยที่คิดว่า “มากเกินไป” ควรจะหันกลับไปถาม “รัฐบาลไลบีเรีย”