บีบีซีนิวส์ - บันทึกลับที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุด ระบุ พวกหน่วยข่าวกรองอเมริกาเคยใช้ “นาซี” เป็นสายลับทำงานในยุโรปช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อต่อกรกับสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น
นักวิชาการที่ศึกษาเอกสารเหล่านี้ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เคยใช้บริการสมาชิกพรรคนาซี ศัตรูเก่าในช่วงสงครามโลก อย่างน้อย 1,000 คน บางคนในจำนวนนี้เป็นสมาชิกระดับสูงสุดของพรรคนาซี และถูกทาบทามเป็นสายลับให้อเมริกาในยุโรป เพื่อขับเคี่ยวกับสหภาพโซเวียตระหว่างยุคสงครามเย็น
ตัวอย่างเช่น ออตโต วอน บอลชวิง อดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษเอสเอส ของนาซีเยอรมัน ซึ่งถูกระบุว่า เป็นผู้เขียนเอกสารนโยบายวิธีการข่มขวัญชาวยิวให้หวาดกลัวนั้น ได้รับการว่าจ้างจากซีไอเอให้เป็นสายลับในยุโรปภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เอกสารระบุว่า ซีไอเอยังจัดการย้ายบอลชวิงและครอบครัวไปอาศัยในนิวยอร์กในช่วงทศวรรษ 1950 เพื่อเป็นรางวัลสำหรับความจงรักภักดี
อีกคนหนึ่งคือ อเล็กแซนดราส ไลไลคิส ผู้ประสานงานของนาซีที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารหมู่ชาวยิวหลายหมื่นคนในลิทัวเนีย ปรากฏว่าอเมริกาว่าจ้างให้เขาสอดแนมในเยอรมนีตะวันออก และภายหลังได้ย้ายไปพำนักในเมืองบอสตัน
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานว่า ซีไอเอเคยพยายามแทรกแซงตอนที่ไลไลคิสถูกสอบสวนคดีอาชญากรสงคราม
การว่าจ้างอดีตสมาชิกนาซีเหล่านี้เกิดขึ้นในบรรยากาศความหวาดระแวงและตื่นตระหนกในยุคสงครามเย็น
กระนั้น บันทึกระบุว่า เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ไม่ได้เพียงอนุมัติการใช้อดีตสมาชิกนาซีเป็นสายลับเท่านั้น แต่ยังเพิกเฉยต่อการดำเนินการที่น่าสะพรึงกลัวของบุคคลเหล่านี้ โดยกล่าวหาว่าพฤติกรรมเลวร้ายที่ถูกแฉโพยของคนเหล่านั้นไม่เป็นความจริง และเป็นเพียงการทำสงครามโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายโซเวียต
การเปิดเผยคราวนี้มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์ หลังจากการขุดคุ้ยของสำนักข่าวเอพี ที่พบว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จ่ายค่าสวัสดิการสังคมให้อดีตสมาชิกนาซีที่เป็นผู้ต้องสงสัยอาชญากรสงครามหลายล้านดอลลาร์ หลังจากคนเหล่านั้นถูกบีบให้เดินทางออกจากอเมริกา
การจ่ายเงินดังกล่าวอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย ซึ่งในเวลาต่อมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า สวัสดิการดังกล่าวจ่ายให้แก่ผู้ที่ยอมยกเลิกความเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจ
