เอเอฟพี - ประธานาธิบดีหญิง ดิลมา รุสเซฟฟ์ คว้าชัยในศึกเลือกตั้งผู้นำแดนแซมบ้าด้วยคะแนนแซงหน้าคู่แข่งแบบเฉียดฉิวเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) และได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาสามัคคีเพื่อให้เกิดเอกภาพในชาติ
ผลการนับคะแนน 99% พบว่า รุสเซฟฟ์ซึ่งเป็นผู้นำสตรีคนแรกของบราซิลคว้าชัยชนะไปด้วยคะแนนราว 51.52% ขณะที่คู่แข่งอย่าง อาเอซิโอ เนเวส หัวหน้าพรรคโซเชียล เดโมเครซี ปาร์ตี ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักธุรกิจ ได้ส่วนแบ่งคะแนนโหวตไปเพียง 48.48% น้อยกว่ากันประมาณ 3 ล้านเสียง
“ดิฉันขอวิงวอนชาวบราซิลทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นให้หันกลับมาสามัคคีกัน เพื่ออนาคตของประเทศชาติ” รุสเซฟฟ์กล่าวต่อบรรดาผู้สนับสนุนในกรุงบราซิเลีย หลังทราบเลือกตั้งว่าเธอเป็นฝ่ายชนะ และคว้าโอกาสในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปอีก 4 ปี
“ดิฉันไม่คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้คนในชาติแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย จริงอยู่ที่พวกเรามีแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนปรารถนาที่จะเห็นประเทศชาติมีอนาคตที่สดใส”
“ประธานาธิบดีของท่านคนนี้ยินดีเจรจาเสมอ และนี่คือเป้าหมายสำคัญที่สุดในรัฐบาลสมัยที่สองของดิฉัน”
รุสเซฟฟ์ วัย 66 ปี ได้รณรงค์หาเสียงแข่งกับ เนเวส อย่างดุเดือดเพื่อแก้ข้อกล่าวหาเรื่องการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด และด้วยผลงานของพรรคแรงงานเอียงซ้าย (พีที) ที่ดำเนินนโยบายต่อสู้ปัญหาความยากจนมานานถึง 12 ปี ทำให้ประชาชนบราซิลส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะภักดีต่อ รุสเซฟฟ์ ต่อไป
อย่างไรก็ดี กลุ่มชนชั้นกลางบราซิลที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ต่างไม่พอใจกับปัญหาคอร์รัปชัน เศรษฐกิจที่ซบเซา ภาวะเงินเฟ้อ และบริการสาธารณะที่ไม่ได้มาตรฐาน
รุสเซฟฟ์ประกาศว่า “ดิฉันจะทำหน้าที่ประธานาธิบดีให้ดียิ่งกว่าที่เคยเป็นมา... มีบางคำพูดที่ดิฉันใช้อยู่เสมอระหว่างการหาเสียง ที่ใช้บ่อยที่สุดคือคำว่า เปลี่ยนแปลง และประเด็นที่เอ่ยถึงบ่อยที่สุดก็คือการปฏิรูป... ดิฉันได้รับเลือกอีกครั้งเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างที่ชาวบราซิลเรียกร้อง”
ประธานาธิบดีหญิงให้คำมั่นต่อประชาชนว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของรัฐบาลคือการปฏิรูปการเมือง และยังสัญญาว่าจะเร่งปราบปราบการทุจริต หลังมีข่าวอื้อฉาวเรื่องการยักยอกเงินหลวงนับพันๆ ล้านดอลลาร์จากบริษัทน้ำมันเปโตรบราซ (Petrobras) ซึ่งมีบุคคลใกล้ชิด รุสเซฟฟ์ เข้าไปพัวพันหลายราย
ศึกเลือกตั้งในบราซิลซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกถือเป็นการหยั่งเสียงเพื่อวัดคะแนนนิยมของพรรคพีทีที่ครองอำนาจบริหารมานานถึง 12 ปี เริ่มจากอดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ดา ซิลวา ซึ่งเป็นผู้นำขวัญใจคนยากจนอยู่ 8 ปี มาจนถึง รุสเซฟฟ์ โดยชาวบราซิลนั้นต้องเลือกระหว่างผลงานด้านสังคมของพรรคพีที กับคำมั่นสัญญาของ เนเวส ที่ว่าจะปฏิรูปเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคัก