เอเอฟพี - กองทัพอเมริกันเผยวานนี้ (23 ต.ค.) ว่า ในช่วงเวลากว่า 2 เดือนของการดำเนินปฏิบัติการโจมตีกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ทางอากาศ สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรได้ส่งอากาศยานออกไปเกือบ 6,600 เที่ยว และได้ทิ้งระเบิดโจมตีไปกว่า 1,700 ลูก
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แถลงว่า เที่ยวบินที่ใช้ดำเนิน “ปฏิบัติการแก้ปัญหาถาวร” (Operation Inherent Resolve) นั้นหลายพันเที่ยวเป็นการส่งอากาศยานเติมน้ำมันกลางอากาศ และเครื่องบินตรวจการณ์ ขณะที่ 632 ครั้งเป็นการส่งเครื่องบินรบไปโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรีย
การเปิดเผยตัวเลขล่าสุดนี้มีขึ้นหลังเมื่อหนึ่งเดือนก่อน กลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ขยายขอบเขตปฏิบัติการทางอากาศจากอิรัก เข้าไปยังน่านฟ้าซีเรีย เพื่อสกัดกั้นการรุกคืบของกลุ่มนักรบญิฮาดรัฐอิสลาม
ผลของการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศปลายเปิดเช่นนี้ยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกัน โดยทำเนียบขาวระบุว่า การโจมตีสามารถสร้างความเสียหายให้แก่กลุ่มติดอาวุธ และบรรดานักวิจารณ์ชี้ว่า ถึงแม้กลุ่มหัวรุนแรงถูกปราบปรามด้วยการโจมตีทางอากาศกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้ แต่ก็ยังประสบความสำเร็จในการทำสงครามภาคพื้น
กองบัญชากากลางสหรัฐฯ ระบุในคำแถลงว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม อากาศยานของกลุ่มชาติพันธมิตรได้ตั้งเป้าถล่มกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม ด้วยการทิ้งระเบิดและขีปนาวุธกว่า 1,700 ลูกทั้งในอิรักและซีเรีย
แม้ว่า วอชิงตันออกมาเน้นย้ำอยู่บ่อยครั้งว่า กลุ่มชาติพันธมิตรอันยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม ทว่า นับตั้งแต่เปิดฉากภารกิจมาอากาศยานของสหรัฐฯ ยังคงเป็นรับบาทบาทโจมตีทางอากาศหนักกว่าชาติอื่นๆ
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ชี้ว่า บรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทิ้งระเบิดโจมตีและขีปนาวุธโจมตีไอเอสไปเพียง 79 ครั้งจากทั้งหมด 632 ครั้ง
ออสเตรเลีย เบลเยียม อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ได้ส่งอากาศยานเข้าร่วมการโจมตีที่อิรักร่วมกับสหรัฐฯ
หน่วยงานของกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า ที่ซีเรีย อากาศยานอเมริกันได้รับกำลังสนับสนุนจากเครื่องบินรบของบาห์เรน จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
คำแถลงของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่า กาตาร์มีส่วนร่วมในการโจมตีทางอากาศ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ประเทศนี้ให้การ “สนับสนุน” ปฏิบัติการนี้ ด้วยการส่งความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ
รายละเอียดเกี่ยวกับเที่ยวบิน และภารกิจของกลุ่มชาติพันธมิตรอาหรับนั้นส่วนใหญ่ถูกเก็บเป็นความลับ โดยบรรดาชาติแถบอ่าวเปอร์เซียยังคงลังเลที่จะเปิดเผยบทบาทตัวเองให้สาธารณชนรับรู้
ในการแถลงข่าวเรื่องการโจมตีทางอากาศรายวันในสัปดาห์นี้ กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่า จะหยุดเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจเมื่อล่าสุดของชาติอาหรับ โดยไม่ได้อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจเช่นนี้
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มชาติพันธมิตรได้ดำเนินปฏิบัติการโจมตีกว่าครึ่งหรือ 346 ครั้งในอิรัก ขณะที่อีก 286 ครั้งนั้นเกิดขึ้นในซีเรีย
เครื่องบินรบที่สหรัฐฯ ส่งไปเข้าร่วมภารกิจทิ้งระเบิด มีดังเช่น อากาศยานไร้คนขับ รีปเปอร์ เครื่องบินขับไล่ F-15, F-16, F/A-18 และ F-22 เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิด B-1B อากาศยานโจมตีแฮริเออร์ และเฮลิคอปเตอร์ทหารติดอาวุธ AC-130 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเลียงที่ถูกดัดแปลงให้สามารถติดตั้งอาวุธหนักได้
นอกจากนี้ แดนอินทรียังส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช AH-64 ออกไปโจมตีอย่างน้อย 2 ครั้งในอิรักเมื่อวันที่ 4 และ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
อากาศยานส่วนใหญ่บินออกจากฐานทัพในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น ฐานทัพอากาศในคูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ แต่วอชิงตันและเหล่าชาติพันธมิตรอาหรับไม่เปิดเผยว่าใช้ฐานทัพใด และเครื่องบินลำใด