เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เผยวานนี้ (29 ก.ย.) ว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม สหรัฐฯ ได้ส่งอากาศยานออกปฏิบัติภารกิจต่อต้านกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียแล้วราวๆ 4,100 เที่ยว โดยในจำนวนนี้รวมถึงการส่งเครื่องบินออกตรวจการณ์ เติมเชื้อเพลิงทางอากาศ และทิ้งระเบิดโจมตี
การส่งเที่ยวบินออกไปอย่างถี่ยิบเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปฏิบัติการทางอากาศภายใต้การนำของสหรัฐฯ กำลังขยายวงกว้างออกจากที่วอชิงตันได้ตั้งเป้าหมายขณะเปิดฉากภารกิจเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมไว้อย่างจำกัดจำเขี่ย
เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนามผู้นี้กล่าวกับเอเอฟพีว่า นอกจากการส่งเที่ยวบินออกไปกว่า 4,000 เที่ยวในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือนแล้ว กลุ่มชาติพันธมิตรอาหรับยังได้ส่งเที่ยวบินไปปฏิบัติการทางอากาศในซีเรียแล้วราว 40 เที่ยว นับตั้งแต่เริ่มเปิดฉากภารกิจครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23)
เขาระบุด้วยว่า ในการส่งอากาศยานสหรัฐฯ ออกไปประมาณ 4,100 เที่ยว เป็นการส่งเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศเกือบ 1,400 เที่ยว
สำหรับเครื่องบินตรวจการณ์ก็ถูกส่งออกไปแล้วหลายร้อยเที่ยวเช่นกัน แต่กองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุจำนวนครั้งที่แน่นอน
หากสหรัฐฯ ดำเนินภารกิจอย่างคงเส้นคงวาต่อไป แดนอินทรีอาจทำลายสถิติเก่า ที่เคยทำไว้ระหว่างดำเนินปฏิบัติการทางอากาศในลิเบีย ภายใต้การนำของนาโต (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) เมื่อปี 2011
นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2011 สหรัฐฯ ได้ส่งอากาศยานออกปฏิบัติการในลิเบียถึงราว 5,300 ครั้ง โดยจำนวนมากเป็นการส่งเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ และเครื่องบินตรวจการณ์
แรกเริ่มเดิมที ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ สั่งการให้กองทัพโจมตีทางอากาศในอิรัก เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อปกป้องนำการทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด และบรรเทาวิกฤตทางมนุษยธรรม ตลอดจนช่วยสนับสนุนกองกำลังอิรักปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ที่บุกยึดพื้นที่อันกว้างใหญ่ในอิรักและซีเรีย
ทว่า หนึ่งเดือนต่อมาโอบามาก็ออกมาประกาศว่าสหรัฐฯ จะดำเนินปฏิบัติการ “อย่างไม่ปรานีปราศรัย” โดยมุ่งสร้างความเสียหายและทำลายกลุ่มไอเอส พร้อมกับขยายขอบเขตโจมตีเข้าสู่ซีเรีย
ตามข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีการโจมตีทางอากาศในอิรักแล้วทั้งสิ้น 224 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝีมือของอากาศยานอเมริกัน ขณะที่มีเครื่องบินของฝรั่งเศสเข้าร่วมในภารกิจนี้ด้วย
ส่วนที่ซีเรีย ภายหลังปฏิบัติการทางอากาศเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 กันยายน ก็มีการทิ้งระเบิดโจมตีแล้ว 66 ครั้ง โดย 43 ครั้งมาจากเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และอีก 23 ครั้งเป็นฝีมือของบรรดาชาติพันธมิตรอาหรับ
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า อากาศยานจากบาห์เรน จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ได้เข้าร่วมดำเนินภารกิจนี้ด้วย
แม้ว่า เมื่อเร็วๆ นี้จะมีรายงานจากซีเรียว่า พบพลเรือนถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศ แต่เพนตากอนก็ออกมาย้ำวานนี้ (29) ว่า ไม่มีหลักฐานว่าปฏิบัติการนี้ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต
ศูนย์เพื่อการประเมินยุทธศาสตร์และงบประมาณ ของสหรัฐฯ ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่ 24 กันยายน ปฏิบัติการทางอากาศ ที่มีทหารสหรัฐฯ ถูกส่งไปประจำการในอิรัก 1,600 คน ครั้งนี้ อาจใช้งบประมาณ 780 ล้าน ถึง 930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ