เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี และวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) ได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนและเยอรมนี ขณะที่ปัจจัยนี้คลายความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ฉุดให้ทองคำปิดลบกว่า 16 ดอลลาร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากรายงานที่ว่าซาอุดีอาระเบียลดกำลังผลิตลงในเดือนกันยายนแล้ว ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของจีนและเยอรมนี ซึ่งบ่งชี้ว่าบางทีการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกอาจไม่ซึมเซาอย่างที่คาดเดากัน
เอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้น ภาคการผลิตของจีนในเดือนตุลาคม ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ 50.4 จุด จากระดับ 50.2 จุดในเดือนกันยายน คลายความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ภายในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก
ในขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนี จากการสำรวจของมาร์กิต ในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 54.3 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.1 จุดของเดือนกันยายน ถือเป็นอัตราที่ร้อนแรงสุดในรอบ 3 เดือน แต่ก็ยังต่ำกว่าในช่วงต้นปี
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับรายงานผลประกอบการอันสดใสของบริษัทยักษ์ใหญ่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 1
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 216.58 จุด (1.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,677.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.71 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,950.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 69.94 จุด (1.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,452.79 จุด
รายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 2 ของแคตเตอร์พิลลาร์ อิงก์ และ3 เอ็ม โค. สร้างความอุ่นใจแก่นักลงทุนว่าเหล่าบริษุทต่างๆ ที่มีแหล่งที่มาของรายได้ส่วนใหญ่ในต่างแดนยังคงมีผลดำเนินการที่แข็งแกร่ง แม้มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
ด้านราคาทองคำวานนี้ (23 ต.ค.) ดิ่งลงอย่างแรง เหตุอุปสงค์สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลดน้อยลง ตามหลังตลาดคลายกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 16.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,229.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์