รอยเตอร์ - จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.) เรียกร้องเหล่าผู้นำเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอาเซียนและออสเตรเลีย ให้เพิ่มความพยายามสกัดกั้นไม่ให้พวกนักรบต่างชาติไหลบ่าเข้าไปยังตะวันออกกลางและตัดเส้นทางการเงิน ในมาตรการกำราบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่กำลังอาละวาดบุกยึดพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมดินแดนอิรักและซีเรีย
ระหว่างเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีคนใหม่อินโดนีเซียที่กรุงจาการ์ตา รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ รายนี้ ยกย่องมาเลเซีย ที่ออกมาประณามพวกนักรบรัฐอิสลามอย่างรุนแรง ขณะที่เขาใช้โอกาสนี้พบปะพูดคุยกับทั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและสิงคโปร์ สุลต่านแห่งบรูไน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียและรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า ระหว่างที่นายเคร์รีพูดคุยกับเหล่าผู้นำทั้งหลายในจาการ์ตา ได้หยิบยกประเด็นต่างๆ ขึ้นมาหารือ ในนั้นครอบคลุมถึงแนวทางที่จะสกัดพวกไอเอสเกณฑ์เหล่านักรบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าเป็นสมาชิก เพื่อป้องกันไม่ให้พวกหัวรุนแรงเหล่านั้นกลับมาก่อเหตุในภูมิภาค เช่่นเดียวกับปิดกั้นแหล่งเงินทุนของพวกเขา
เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ในการพูดคุยครั้งนี้มีการแตะต้องไปที่ประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาทด้านอาณาเขตในทะเลจีนใต้ หลังการขยายขอบเขตการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนได้ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและพันธมิตรเอเชียมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการต่อสู้กับอีโบลาและข้อตกกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกที่อยู่ระหว่างการเจรจา แต่เป้าหมายลำดับต้นๆของเคร์รี คือแสวงหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรียและอิรักที่มีอเมริกาเป็นแกนนำ
ในการหารือกับนายโทนี แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายเคร์รี ยกย่องออสเตรเลีย ที่ให้การสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นสำหรับสู้รบกับพวกรัฐอิสลาม ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “เราไม่ได้มีแค่พันธมิตรที่เข้มแข็งเท่านั้น แต่เราขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่งต่อความตั้งใจอย่างไม่ลดละของออสเตรเลีย ที่จะยืนหยัดเพื่อคุณค่าและผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งมันสำคัญต่อเรามาก”
“ประสบการณ์ของออสเตรเลีย ที่มีนักรบภายในประเทศเข้าร่วมกับรัฐอิสลาม ช่วยให้ทุกคนรู้ดีว่าการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกมีความสำคัญมากแค่ไหน และมันช่วยให้เราทุกคนตระหนักถึงเดิมพันครั้งนี้” นายเคร์รีกล่าว
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยด้วยว่า ในส่วนของหารือกับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายเคร์รีได้เน้นถึงความจำเป็นที่ประชาคมนานาชาติต้องเพิ่มมาตรการปราบปรามนักรบต่างแดน
ทั้งนี้ นายเคร์รีได้พูดคุยกับนายวิโดโดในช่วงค่ำวันจันทร์ (20 ต.ค.) แต่เมื่อถูกถามหลังจากนั้นว่าได้มีการหยิบยกประเด็นนักรบรัฐอิสลามหารือกันหรือไม่ ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียตอบว่า “ไม่”
ตามหลังโศกนาฏกรรมก่อการร้าย 11 กันยายน 2011 ในสหรัฐฯ และเหตโจมตีเกาะบาหลีในปีต่อมา อินโดนีเซียดำเนินการปราบปรามพวกหัวรุนแรงในประเทศอย่างหนัก จนพวกนักรบอ่อนแอลงและกระจัดกระจายกันไป แต่จากข้อมูลเมื่อเร็วๆนี้ พบว่ามีชาวอินโดนีเซียและมาเลเซีย เดินทางไปยังตะวันออกกลางเพื่อเข้าร่วมกับพวกนักรบไอเอสมากขึ้นเรื่อยๆ
เจ้าหน้าที่วอชิงตันเผยว่า สหรัฐฯ หวังเห็นอินโดนีเซียดำเนินการอายัดทรัพย์สินพวกนักรบตามมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force)ของสหประชาชาติมากกว่าเดิม และอยากเห็นนายวิโดโด สานต่อบทบาทนโยบายต่างประเทศจากรัฐบาลชุดก่อน ท่ามกลางความกังวลว่าประธานาธิบดีคนใหม่อาจหันไปให้ความสำคัญต่อประเด็นภายในมากกว่า