“ประยุทธ์” เข้าทำเนียบหลังกลับจากประชุมอาเซม รมว.พณ.ดอดถกส่วนตัว ก่อนหารือนายกฯ บาห์เรน ทีมโฆษกเผย บาห์เรนเข้าใจเหตุในไทย เห็นการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ยินดีประสานไทยกับชาติอื่น รับสนใจซื้อข้าวไทย เห็นด้วยส่งเสริมประสิทธิภาพสินค้าเกษตร เพิ่มอำนาจต่อรอง ยกเป็นชาติอาหรับใกล้ชิดไทยมากสุด แจงนายกฯ งานชุกไร้คิวบินมาเลย์คุยปมสันติภาพ
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากเดินทางกลับจากการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ที่สาธารณรัฐอิตาลี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเช้า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ มีการหารือเป็นการส่วนตัว ไม่มีทีมงานเข้าร่วมรับฟังโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้หารือข้อราชการกับเชค คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายกฯ บาห์เรนเป็นพันธมิตรเก่าแก่และเคยเดินทางเยือนประเทศไทยหลายครั้งจึงเข้าใจเหตุการณ์ในประเทศไทย และจากการเดินทางเยือนครั้งนี้นายกฯ บาห์เรนได้กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมด้านความมั่นคงที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และรู้สึกว่ากรุงเทพฯ มีความปลอดโปร่งโล่งสบาย และซาบซึ้งกับอัธยาศัยของคนไทย รวมถึงชื่นชมศักยภาพของคนไทยในหลายด้าน และยินดีที่จะเป็นตัวเชื่อมประสานประเทศไทยกับประเทศต่างๆ
พล.ต.วีรชนกล่าวต่อว่า นายกฯ บาห์เรน สนใจรับซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไทยโดยเฉพาะข้าว ซึ่งในส่วนนี้มีกลไกการประชุมร่วมกันระดับสูงของสองประเทศอยู่ ในการเร่งหารูปแบบความร่วมมือซึ่งนายกฯ ทั้งสองประเทศมีความเห็นร่วมกัน และได้สั่งการไปในประเทศของตนเองแล้ว โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงว่าในการร่วมประชุมอาเซมที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับประเทศในแถบยุโรปว่ากลุ่มอาเซียน และประเทศอื่นในเอเชียมีประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าเกษตร จึงจำเป็นต้องส่งเสริมเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง ซึ่งนายกฯ บาห์เรนเห็นด้วย
พล.ต.วีระชน กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับนายกฯ บาห์เรนว่า บาห์เรนเป็นประเทศตะวันออกกลางและอาหรับที่มีความใกล้ชิดกับประเทศไทยมากที่สุด และเราอยากเพิ่มพูนความร่วมมือในทุกมิติ รวมถึงมองว่าสิ่งที่ทุกประเทศต้องดำเนินการแก้ไขนอกเหนือจากความมั่นคงแล้ว ก็คือปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงความปลาบปลื้มใจที่ได้พบมิตรแท้ที่ผู้นำประเทศเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง พร้อมทั้งยังเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย และให้กำลังใจ รวมถึงยินดีให้ความร่วมมือในทุกมิติด้วย
พล.ต.วีรชนยังเปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีกำหนดการเดินทางไปหารือกับนายกฯ มาเลเซียอย่างเป็นทางการที่จะมีการหารือถึงแนวทางการพูดคุยสันติสุข ในช่วงนี้ว่า เนื่องจากนายกฯ ของทั้งสองประเทศต่างมีภารกิจของตัวเอง และในการประชุมเอเปกที่ประเทศจีนในช่วงปลายปีนี้ นายกฯ ทั้งสองประเทศก็จะได้มีโอกาสพบกันและคาดว่าอาจจะได้มีการหารือในเรื่องนี้ด้วย จึงตกลงร่วมกันว่าให้เลื่อนการเดินทางเยือนมาเลเซียออกไปก่อน