รอยเตอร์ - ทางการเนปาลแถลงวันนี้ (20 ต.ค.) ว่าภารกิจค้นหาลูกหาบ และไกด์ชาวเนปาลที่หายไปนาน 6 วัน หลังถูกพายุกำลังแรงเล่นงานบนเทือกเขาหิมาลัย ต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากมีหิมะกองย่อมๆ ถล่มลงมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิต ต้องวางมือจากภารกิจตามหาผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 คน
จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้ประสบภัยเกือบ 600 คน ลงมาจากเส้นทางปีนเขายอดนิยม รอบยอดเขาอันนะปุรณะ ที่มีความสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก ภายหลังมีหิมะหลงฤดูตกลงมา จนหิมะถล่ม ซึ่งเป็นอิทธิพลของหางพายุไซโคลน “ฮุดฮุด” ที่เคลื่อนตัวผ่านประเทศอินเดีย ที่อยู่ใกล้กับเนปาล
เกศา ปาเนด จากสมาคมนักปีนเขาเนปาลกล่าวว่า “วันนี้ (20) เป็นวันสุดท้ายของปฏิบัติการค้นหาและช่วยชีวิต หลังจากนี้ไป เราก็ได้แต่หวังว่า ผู้ที่สูญหายไปจะสามารถหาทางติดต่อเรา หรือครอบครัวของพวกเขาได้”
ปาเนด กล่าวว่า “ตอนนี้เราไม่คิดว่า ยังมีนักท่องเที่ยวคนใดหายไป แต่ผมได้รับรายงานว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของลูกหาบ และไกด์นำทางชาวเนปาล 7 คน ที่อยู่บนเส้นทางปีนเขา” หลังจากที่วานนี้ (19) ทีมค้นหาของปาเนด สามารถช่วยชีวิตผู้สูญหายไว้ได้ 250 คน
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้เป็น นักปีนเขาจากประเทศแคนาดา อินเดีย อิสราเอล ญี่ปุ่น เนปาล โปแลนด์ และสโลวาเกีย ผู้รอดชีวิตกล่าวว่า คนจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากพยายามลงจากจุดสูงสุดของเส้นทางเดินรอบยอดเขาอันนะปุรณะที่มีระยะทาง 240 กิโลเมตร ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ “ไวท์เอาท์” ซึ่งเกิดจากการที่แสงแดดกระทบกับหิมะและก้อนเมฆจนทุกอย่างตรงหน้าดูขาวโพลน ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณนั้นเป็นจุดที่มองลงมาเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเชิงผา และหมู่บ้านเล็กๆ
วันนี้ (20) ทีมค้นหาได้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ขยับขึ้นสู่ 40 คน
บาบุราม ภัณฑารี ผู้ว่าการเขตมุสตาง ของเนปาล ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ทีได้รับผลกระทบหนักสุดกล่าวกับรอยเตอร์ว่า “วันนี้ ทีมค้นหาและช่วยชีวิตของกองทัพเนปาลสามารถกู้ศพนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลคนหนึ่งออกมาจากกองหิมะ”
เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเนปาลและเอกชนได้บินไปอพยพผู้รอดชีวิตออกจากเส้นทางปีนเขาบางจุด ที่อยู่กว่า 5,000 เมตร
ทหารได้กระจายกำลังออกค้นหาผู้รอดชีวิตตามเส้นทางที่อันตรายที่สุด ในจุดที่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้ ซึ่งรวมถึง พื้นที่รอบทะเลสาบน้ำแข็งทีลีโช ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้าราว 4 วันจากจุดพักแรมหลัก และหมู่บ้านนาอาร์ และภู ซึ่งอยู่ห่างไกล และอยู่ใกล้กับทิเบต
ดีภักดิ์ อมาตยา รัฐมนตรีการท่องเที่ยวเนปาลกล่าวว่า เขาตัดสินใจยกเครื่องอุตสาหกรรมการปีนเขาในเนปาลใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ขึ้นอีก
กระทรวงการท่องเที่ยวเนปาลกำลังวางแผนจะสร้างที่หลบภัยกว่า 200 หลังตลอดเส้นทางปีนเขาในเนปาล เพื่อรับประกันว่า นักท่องเที่ยวจะมีที่หลบภัยได้ภายในระยะทาง 3 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เนปาลเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงติดอันดับต้นๆ ของโลกถึง 14 ลูก เมื่อปี 2013 รายได้จากการท่องเที่ยวนั้นคิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของเนปาล โดยในจำนวนนี้รวมถึงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของนักปีนเขา ที่คิดเป็นกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยว 800,000 คนที่หลั่งไหลไปยังประเทศนี้