เอเจนซีส์ - คาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน และบาดเจ็บอีก 30 หลังภูเขาไฟ “ออนตาเกะ” ซึ่งเป็นสถานที่ปีนเขาที่ได้รับความนิยมสูงของญี่ปุ่น เกิดระเบิดโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และพ่นเถ้าถ่านรวมทั้งหินออกมาจำนวนมาก ตลอดจนปล่อยก๊าซกำมะถันปกคลุมทั่วบริเวณ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแดนอาทิตย์อุทัยสั่งห้ามประชาชนเข้าพื้นที่ พร้อมเตือนภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่หยุดปะทุ
ตำรวจและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของจังหวัดนากาโนะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างนักปีนเขามากกว่า 30 คนที่ “หัวใจหยุดเต้น” ใกล้ยอดเขาออนตาเกะที่มีความสูง 3,067 เมตร เมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.ย.)
ทั้งนี้ คำว่า “หัวใจหยุดเต้น” เป็นคำที่ใช้กันตามธรรมเนียมปฏิบัติของญี่ปุ่น ก่อนที่แพทย์จะตรวจยืนยันการเสียชีวิต
สื่อท้องถิ่นให้ตัวเลขนักปีนเขาที่หัวใจหยุดเต้นที่ 31 ราย และก่อนหน้านั้น สำนักงานบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติระบุว่า เจ้าหน้าที่พยายามยืนยันสถานที่อยู่ของนักปีนเขา 45 คน ซึ่งยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า 45 คนนี้รวมอยู่ใน 31 คนที่พบว่า หัวใจล้มเหลวหรือไม่
เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องระงับการค้นหาชั่วคราวในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ เนื่องจากมีก๊าซกำมะถันตลบอบอวลไปทั่ว ได้นำร่างนักปีนเขาที่พบลงมาได้แล้ว 4 ราย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยืนยันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 ราย โดยมี 1 รายบาดเจ็บสาหัส แต่สำทับว่า ตัวเลขยังอาจเปลี่ยนแปลงได้
ขณะที่หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุง รายงานว่า ผู้บาดเจ็บบางคนกระดูกหัก บางคนมีอาการไหม้ภายในจากการสูดควันภูเขาไฟเข้าไป
ทหาร ตำรวจ และนักดับเพลิงราว 550 คน เข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือนักปีนเขาหลายสิบคนที่หวั่นเกรงว่า ยังติดอยู่บนเขานับจากที่ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าในช่วงก่อนเที่ยงวันเสาร์ (27) ขณะมีนักท่องเที่ยวและนักปีนเขาอยู่บนเขาลูกนี้หลายร้อยคน
เถ้าถ่านที่ทับถมกันหนาถึง 20 เซนติเมตรกระจายปกคลุมกว้างขวาง และทำให้ ณ จุดหนึ่ง นักท่องเที่ยว 150 คนต้องไปหลบในที่หลบภัยบนเขา ทว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชื่อว่า มีผู้หลบภัยอยู่เพียง 45-49 คนเมื่อถึงคืนวันเสาร์
คลิปที่ถ่ายจากเคบินที่พักและสถานีทีวีเอ็นเอชเคนำออกเผยแพร่ เผยให้เห็นควันดำหนาทึบที่ทำให้สภาพโดยรอบมืดมิดไปหมด และมีเสียงกรีดร้องของนักปีนเขาขณะที่ก้อนหินตกลงกระทบหลังคาและผนังเคบิน นอกจากนี้ผู้รอดชีวิตบางคนเล่าว่า ขณะที่ภูเขาไฟระเบิด มีก้อนหินมากมายและเถ้าถ่านร้อนจำนวนมากพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
นักปีนเขา 25 คน ซึ่งรวมถึงเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่ต้องค้างคืนในเคบิน สามารถลงจากเขาในตอนเช้าวันอาทิตย์ อันเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินช่วยเหลือนักปีนเขาได้ 7 คน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นักปีนเขาราว 230 คนลงจากเขาอย่างปลอดภัยหลังจากภูเขาไฟระเบิดไม่นาน
ในวันอาทิตย์ ควันขาวหนาทึบยังคงพวยพุ่งจากภูเขาไฟออนตาเกะ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ภูเขาไฟลูกนี้จะยังคงปะทุต่อไป และเตือนว่า เถ้าถ่านจากภูเขาไฟระเบิดอาจปกคลุมบริเวณกว้างขวางถึง 4 กิโลเมตรจากยอดเขา
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นยังห้ามประชาชนขึ้นไปบนออนตาเกะ และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเตรียมพร้อม เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟอาจทำให้กระจกของอาคารบ้านเรือนที่อยู่ไกลออกไปแตกได้
เหตุการณ์นี้ยังทำให้เที่ยวบินมากมายจากสนามบินฮาเนดะ ในโตเกียวต้องล่าช้าออกไปเมื่อวันเสาร์ เนื่องจากมีการเปลี่ยนเส้นทางบินเพื่อหลีกเลี่ยงภูเขาไฟออนตาเกะที่ตั้งอยู่ระหว่างเขตจังหวัดนากาโนะ และกิฟุ อย่างไรก็ดี เที่ยวบินส่วนใหญ่สามารถให้บริการได้ตามปกติในวันอาทิตย์
ออนตาเกะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น และตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตะวันตกประมาณ 200 กิโลเมตร เกิดระเบิดรุนแรงครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้เมื่อปี 1979 โดยพ่นเถ้าถ่านออกมามากกว่า 200,000 ตัน จากนั้นมีการระเบิดระดับปานกลางอีก 2 ครั้งในเดือนมีนาคม 2007 และพฤษภาคม 1991
