เอเอฟพี - พายุหิมะและหิมะถล่มบนเทือกเขาหิมาลัยของเนปาล คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวและไกด์นำเที่ยว 17 คน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 9 ราย และชาวเนปาล 8 คน ในเส้นทางปีนเขายอดนิยม ขณะเดียวกันยังมีคนอื่นๆ อีกกว่า 100 รายขาดการติดต่อ เจ้าหน้าที่เผยในวันพุธ (15 ต.ค.)
สภาพอากาศเลวร้ายอันเนื่องมาจากอิทธิพลของหางพายุไซโคลนฮุดฮุด ซึ่งซัดถล่มชายฝั่งทางตะวันออกของชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักเดินทางและไกด์นำเที่ยวบนยอดเขาอันนะปุรณะ ทางตอนกลางของเนปาลเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.)
หลังจากสภาพอากาศเปิดในเขตมัสตังและเขตมานังในวันพุธ (15 ต.ค.) ทีมกู้ภัยลุยฝ่าหิมะหนาระดับเอว จนไปพบนักเดินทางที่ติดค้าง 22 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เผยว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 168 คนที่ลงทะเบียนปีนเขา และเวลานี้ทางการกำลังพยายามแกะรอยตามหาพวกเขา
ด้านนายตำรวจกาเนช ไร หัวหน้าหน่วยทีมช่วยเหลือ เผยว่าพบร่างผู้เสียชีวิต 12 ศพ เป็นชาวอิสราเอล 2 คน โปแลนด์ 1 คน เวียดนาม 1 คนและชาวเนปาล 8 คน ถูกฝังอยู่ใต้หิมะในเขตมัสตัง “ในพื้นที่มีหิมะตกลงมาหนักมาก หนาถึง 3 ฟุต เราพบร่างผู้เสียชีวิต 12 ศพในมัสตัง เป็นชาวต่างชาติ 4 คน”
นอกจากนี้แล้ว ทีมกู้ภัยที่ได้รับการสนับสนุนจากเฮลิคอปเตอร์กองทัพเนปาลและอื่นๆที่ถูกว่าจ้างโดยบริษัทตัวแทนนำเที่ยว ยังพบร่างไร้วิญญาณของนักปีนเขาอีก 5 ศพในเขตมานังที่อยู่ติดกัน หลังถูกหิมะถล่มลงมาทับ ในนั้นเป็นชาวแคนาดา 4 คนและเป็นชาวอินเดีย 1 คน
เจ้าหน้าที่เขตมานังระบุยังหวังที่จะพบผู้สูญหายอีกกว่าร้อยชีวิต หลังนักเดินทางและไกด์นำเที่ยวเหล่านี้ถูกตัดขาดโดยสภาพอากาศอันเลวร้ายและระบบการติดต่อสื่อสารที่ย่ำแย่ “เครือข่ายโทรศัพท์ไม่ดีเลย ดังนั้นเราจึงไม่สามารถติดต่อกับผู้ที่สูญหายได้ แต่เราหวังว่าจะพบพวกเขาภายในวันนี้”
ไม่มีการเปิดเผยของคนที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาแล้ว ในนั้นรวมถึงสัญชาติของพวกเขา อย่างไรก็ตามเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกนำตัวโรงพยาบาลต่างๆ ในท้องถิ่น โดยมีเพียงเล็กน้อยที่ต้องลำเลียงทางอากาศนำไปรักษาที่กรุงกาฐมาณฑุ
ในเดือนตุลาคมของแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางเยือนแถบเทือกเขาอันนะปุรณะ อันเป็นช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการปีนเขา อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ภูมิภาคแห่งนี้ต้องเผชิญกับหิมะตกหนักผิดปกติ เนื่องจากอิทธิพลของไซโคลนฮุดฮุด ซึ่งซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของอินเดียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คน 22 ศพและก่อความเสียหายใหญ่หลวง
