xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” ยันอีโบลาไม่ระบาดใน US อเมริกันไม่ไว้ใจ-เลือก “กัน” ก่อนแก้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หารือกับ โทมัส ไฟรเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) ในห้องทำงานส่วนตัว ณ ทำเนียบขาว (16 ต.ค.)
เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกเกินเหตุ พร้อมกับย้ำว่าการพบผู้ติดเชื้ออีโบลา 3 ราย ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้กำลังระบาดในอเมริกา ทั้งนี้หลังจากมีรายงานข่าวว่า ชาวอเมริกันในหลายๆ ท้องที่กำลังพยายามใช้มาตรการป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน โดยที่ในหลายกรณีดูเข้าข่ายเป็นการตื่นตูม

ขณะที่คณะรัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามา ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลก กำลังมุ่งจดจ่อจัดการกับแหล่งต้นตอการระบาดของเชื้ออีโบลาระลอกนี้ใน 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตก ทางด้านมลรัฐเทกซัสได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ (18 ต.ค.) ว่า ลบชื่อบุคคล 14 คนออกจากบัญชีผู้ที่ต้องเฝ้าติดตามอาการแล้ว หลังไม่พบว่ามีไข้หรืออาการอื่นๆ ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเตรียมลบชื่อบุคคลอื่นๆ เพิ่มเติมภายใน 2 วัน หากไม่ปรากฏอาการที่บ่งชี้ว่าติดเชื้อไวรัสชนิดนี้

บุคคลที่จะถูกลบชื่อออกหลังจากวันอาทิตย์ (19) ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการกักกันโรค คนหนึ่งคือ หลุยส์ โทรห์ ในเมืองดัลลัส คู่หมั้นของ โธมัส อิริก ดันแคน ชาวไลบีเรียที่เป็นคนแรกซึ่งตรวจพบติดเชื้ออีโบลาในอเมริกาเมื่อปลายเดือนกันยายน ขณะเดินทางไปเยี่ยมโทรห์ รวมถึงบุตรชายวัย 13 ปีของเธอ และญาติอีก 2 คนของดันแคน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเทกซัสแถลงว่า ยังคงเฝ้าติดตามอาการบุคคลอื่นๆ 145 คนที่ “สัมผัสหรืออาจสัมผัส” กับเชื้ออีโบลา

นอกจากนั้น สายการบิน ฟรอนเทียร์ แอร์ไลนส์ ยังทำการติดต่อผู้โดยสารราว 800 คนที่อยู่ในเที่ยวบินเดียวกับ แอมเบอร์ วินสัน หนึ่งในพยาบาลในเทกซัสที่ติดเชื้ออีโบลาจากดันแคน รวมถึงผู้ที่ขึ้นเครื่องบินลำเดียวกันนั้นในเที่ยวบินต่อๆ มา

ส่วนที่กรุงวอชิงตัน ระหว่างการปราศรัยทางวิทยุประจำสัปดาห์เมื่อวันเสาร์ (18) โอบามากล่าวว่า จะไม่ยอมตามเสียงเรียกร้องของสมาชิกรัฐสภาอเมริกันบางคนที่ต้องการห้ามผู้เดินทางจากไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี เข้าสหรัฐฯ โดยที่สามประเทศในแอฟริกาตะวันตกนี้ กำลังเผชิญกับอีโบลาระบาดหนักที่สุด จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,500 รายแล้ว นับจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“เราไม่สามารถที่จะเพียงแค่ตัดตัวเราเองออกจากแอฟริกาตะวันตกได้” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวพร้อมกับยืนกรานว่า การกระทำเช่นนั้นรังแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

สัปดาห์ที่ผ่านมาโอบามา ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการจัดการวิกฤตอีโบลา ได้ประชุมกับทีมงานชุดต่างๆ และเมื่อวันศุกร์ (17) ได้ตั้งรอน เคลน นักกฎหมายที่มีประสบการณ์ เป็น “ซาร์” ผู้รับผิดชอบความพยายามทั้งหลายทั้งปวงในการควบคุมการระบาดของอีโบลา ทว่า พรรครีพับลิกันได้ออกมาตั้งข้อสงสัยทันทีว่า เหตุใดโอบามาจึงเลือกคนที่ไม่มีภูมิหลังด้านสาธารณสุข

กระนั้น เมื่อวันเสาร์ โอบามายืนยันกับประชาชนว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกาในปัจจุบันไม่ใช่การแพร่ระบาด ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ควรแตกตื่นจนเกินเหตุ
เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและฆาเชื้อโรคบริเวณทางเข้าที่พักของพยาบาลที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลา จากผู้ป่วยชาวไลบีเรียที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน (12 ต.ค.)
แต่สำหรับคนอเมริกันจำนวนไม่น้อย ดูเหมือนคำยืนยันของประมุขทำเนียบขาวจะไร้ผล เพราะนับจากดันแคนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา ความศรัทธาในระบบการแพทย์ของอเมริกาก็สั่นคลอนอย่างหนัก ขณะที่ความสามารถในการป้องกันโรคของสหรัฐฯก็ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากความผิดพลาดในการวินิจฉัยอาการของดันแคนในระยะแรก

บาร์เคลย์ เบอร์แดน ประธานบริหาร “เทกซัส เฮลธ์ รีซอร์ส” เครือข่ายระบบบริการด้านสาธารณสุขที่ไม่หวังผลกำไร ออกคำแถลงเมื่อคืนวันเสาร์ยอมรับว่า ในระยะแรกโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน ผิดพลาดในการจัดการกับวิกฤตการณ์ที่ท้าทายสูงนี้ ซึ่งรวมถึงการวินิจฉัยอาการของดันแคนผิด อย่างไรก็ดี มาตรการเชิงรุกและการเปลี่ยนแปลงนับจากนั้น ก็สามารถรับประกันว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ และเสริมว่า จะมีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกว่า พยาบาลสองคนที่ดูแลดันแคนติดเชื้อได้อย่างไร

ในขณะที่สื่อมวลชนอเมริกัน พากันรายงานข่าวเกี่ยวกับความตื่นตระหนกของชาวอเมริกัน ซึ่งพยายามดำเนินมาตรการที่พวกเขาเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อน ถึงแม้หลายๆ อย่างจะเป็นการกระทำแบบตื่นตูม

เป็นต้นว่า ครูโรงเรียนประถมคนหนึ่งในรัฐเมน ถูกสั่งให้หยุดงาน 3 สัปดาห์โดยได้รับเงินเดือน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเดินทางไปประชุมที่เมืองดัสลัส, รัฐเทกซัส ถึงแม้เขาพักอยู่ในโรงแรมซึ่งตั้งห่างจากโรงพยาบาลที่รับรักษา ดันแคน ถึง 16 กิโลเมตรก็ตาม

กระทั่ง มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ในรัฐนิวยอร์ก ยั่งยกเลิกคำเชิญ มิเชล ดู เซียล ช่างภาพมือรางวัลพูลิตเซอร์ 3 สมัยจากวอชิงตันโพสต์ ไปพูดในคณะวารสารศาสตร์ เนื่องจากดู เซียล เคยเดินทางไปถ่ายภาพที่ไลบีเรีย ทั้งที่เขากลับมาได้ 21 วันซึ่งเป็นระยะฟักตัวของโรค โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ

“ผมรู้สึกผิดหวังมากเกี่ยวกับระดับทางด้านวิชาวารสารศาสตร์ที่ซีราคิวส์ และผมก็รู้สึกโกรธเคืองที่พวกเขาทิ้งโอกาสที่จะได้รับรู้การสอนอันยิ่งใหญ่” ดู เซียล กล่าว และบอกต่อไปว่า “พวกเขากลับตัดสินใจเลือกที่จะกระโจนเข้าไปในกระแสความตื่นตูมเกินเหตุของมวลชน”

ทางด้านคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ อธิบายว่า ที่ต้องตัดสินใจแบบนี้เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาคนหนึ่งที่กังวลกับโรคอีโบลา

“ขณะที่ดิฉันไม่ต้องการที่จะมีส่วนเพิ่มความหวาดกลัวเกี่ยวกับโรคนี้ แต่ดิฉันก็เชื่อว่าเราจำเป็นต้องใช้มาตรการระวังป้องกันไว้ก่อน” คณบดี ลอร์เรน แบรนแนห์ม กล่าวในคำแถลงของเธอ

ส่วนพ่อแม่กลุ่มหนึ่งของนักเรียนมัธยมในรัฐมิสซิสซิปปี้ ตัดสินใจไม่ให้ลูกๆ ไปโรงเรียน เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ครูใหญ่เดินทางไปแอฟริกา แม้ประเทศที่เขาไปคือแซมเบีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกาฬทวีป ห่างไกลจากแหล่งระบาดในแอฟริกาตะวันตก
เจ้าหน้าที่การแพทย์ โรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน ในเมืองดัลลัส รวมตัวกันถือป้ายให้กำลังใจ นินา แพม และ แอมเบอร์ วินสัน พยาบาลที่ติดเชื้อไวรัสมรณะอีโบลา (17 ต.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น