เอเอฟพี – ปริศนาเริ่มเขม็งเกลี่ยวขึ้นในวันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อกองทัพสวีเดนยกระดับปฏิบัติการทหาร โดยมีชนวนเหตุมาจากการ “กิจกรรมใต้น้ำ” นอกชายฝั่งกรุงสตอกโฮล์ม ขณะที่มีรายงานยังไม่ได้รับการยืนยันว่า กองทัพสวีเดนกำลังออกตามล่า เรือดำน้ำรัสเซียที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (18) กองกำลังติดอาวุธสวีเดนได้ยกระดับปฏิบัติการ ที่มีการส่งกำลังทหารกว่า 200 นาย กองเรือรบล่องหน เรือค้นหาและทำลายทุ่นระเบิด และฝูงเฮลิคอปเตอร์เข้าร่วม ในบริเวณซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงของสวีเดนไปทางตะวันออกราว 50 กิโลเมตร โดยปฏิบัติการทหารครั้งนี้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17) ภายหลังกองกำลังติดอาวุธเปิดเผยว่า พวกเขาได้รับแจ้งว่าพบ “วัตถุที่มนุษย์ทำขึ้น” ใต้น้ำ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ “ตามล่าเรือดำน้ำ” พร้อมทั้งเรียกการระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นว่าเป็น “ปฏิบัติการข่าวกรอง”
วันนี้ (19) รัสเซียออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีเรือดำน้ำลำใดของมอสโกมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์รายวัน สเวนสกา ดักบลาเดต ของสวีเดนซึ่งสาธารณชนเชื่อถือรายงานว่า เรือรบที่ได้รับความเสียหายลำหนึ่งของรัสเซียคือปมปริศนาครั้งนี้
*** รัสเซียส่งสัญญาณฉุกเฉิน ***
รายงานระบุว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพเรือสวีเดนสามารถดักจับสัญญาณวิทยุระหว่างพื้นที่นอกชายฝั่งสตอกโฮล์ม กับเมืองคาลินินกราด ของรัสเซีย ซึ่งเป็นฐานของกองเรือทะเลบอลติกรัสเซีย
หนังสือพิมพ์เจ้านี้รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวภายในกองทัพสวีเดนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภารกิจค้นหาว่า “สัญญาณดังกล่าวมีความถี่พิเศษ ที่รัสเซียใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน”
อย่างไรก็ตาม กองกำลังติดอาวุธของสวีเดนยังคงรูดซิบปากสนิท แต่ระบุว่า กำลังมุ่งความสำคัญไปที่ “กิจกรรมใต้น้ำ”
อีริก ลาเจอร์สเตน กล่าวว่า “กองกำลังติดอาวุธสวีเดนไม่ได้อยู่ในฐานะที่สามารถปฏิเสธ หรือยืนยันรายงานข่าวจากสื่อ หรือยืนยันการคาดการณ์เรื่องเรือดำน้ำต่างชาติที่หายไป ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ได้”
“ในตอนนี้ เรากำลังดำเนินปฏิบัติการข่าวกรองในหมู่เกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงสตอกโฮล์มด้วยดาวเทียมตรวจการณ์ ตลอดจนเรือรบที่ติดตั้งเซนเซอร์คุณภาพสูง ... เพื่อตรวจสอบว่ามีการดำเนินกิจกรรมใต้น้ำในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่”
แหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยนามในกองทัพสวีเดนระบุกับ สเวนสกา ดักบลาเดตว่า สวีเดนสามารกดักจับสัญญาณฉุกเฉินในรัสเซียได้เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (16) และกล่าวด้วยว่า จากนั้นก็สามารถดักจับสัญญาณที่มีการเข้ารหัสได้ในวันศุกร์ (17) ภายหลังกองกำลังติดอาวุธสวีเดนเริ่มเคลื่อนกำลังเข้าสู่พื้นที่
เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2000 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ “คูร์สค์” ของรัสเซียได้อับปางในทะเลแบเรนต์ส เป็นผลให้ลูกเรือเสียชีวิตยกลำ 118 คน เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบของรัสเซียได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลัง จากการที่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาชาติ และทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด ในแง่ความรวดเร็วของปฏิบัติการช่วยชีวิตที่ประสบล้มเหลวในเวลาต่อมา