เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเอ็นเตือน “อีโบลา” กำลังเป็นฝ่ายวิ่งนำหน้าเข้าเส้นชัย โดยหากยังไม่มีมาตรการควบคุมการระบาดที่ได้ผล จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่อาจเพิ่มขึ้นอีกมากมายภายในสิ้นปีนี้ ทางด้านองค์การอนามัยโลก (ฮู) สำทับ เมื่อถึงต้นเดือนธันวาคม อัตราการติดเชื้ออีโบลาอาจเพิ่มเป็น 5,000-10,000 คนต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกัน ทางการเทกซัสประกาศว่าพบพยาบาลติดเชื้อไวรัสร้ายแรงนี้เป็นคนที่ 2
แอนโธนี แบนเบอรี หัวหน้าหน่วยงานฉุกเฉินของสหประชาชาติเพื่อตอบโต้การระบาดของโรคอีโบลา (UNMEER) แถลงผ่านวิดีโอลิงก์จากสำนักงานใหญ่ UNMEER ในกานา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) ว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสอีโบลากำลังวิ่งนำหน้ามาตรการรับมือของทั่วโลกไปมากแล้ว อีกทั้งยังกำลังวิ่งได้รวดเร็วกว่า และกำลังเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน
“หากเราไม่สามารถหยุดยั้งอีโบลาได้ในขณะนี้ เราจะเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนอย่างสิ้นเชิง และก็ยังไม่มีแผนการที่จะรับมือ” แบนเบอรีสำทับว่า ด้วยอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเร็วมากทุกๆ วัน UNMEER จะต้องใช้เตียงผู้ป่วยถึง 7,000 เตียง
“แต่ข่าวดีก็คือ เรารู้วิธีหยุดยั้งการระบาดของอีโบลา เพียงแต่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเท่านั้น”
คำเตือนของแบนเบอรีมีขึ้นไล่เลี่ยกับที่บรูซ อิลวอร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก คาดว่าอัตราการติดเชื้ออีโบลาอาจเพิ่มเป็น 5,000-10,000 คนต่อสัปดาห์ เมื่อถึงช่วงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม หากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายนี้ได้
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเวลานี้อยู่ที่ 4,447 ราย จากผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงาน 8,914 ราย ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกานา ฮูยังคาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มจำนวนเป็น 9,000 คนภายในปลายสัปดาห์นี้
ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุว่า โลกยังทุ่มเทไม่มากพอเพื่อควบคุมภัยคุกคามจากอีโบลา โดยผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดประชุมทางไกลกับผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีในวันพุธ (15)
ขณะเดียวกัน พยาบาลในเทกซัสที่เพื่อนของ นีนา ฟาม พยาบาลผู้ติดเชื้ออีโบลาจากโธมัส อีริก ดันแคน ผู้ป่วยชาวไลบีเรียที่เสียชีวิตเมื่อวันพุธที่แล้ว (8) นั้น ยืนยันว่า พวกตนทำงานโดยปราศจากชุดป้องกันนานหลายวัน รวมทั้งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีป้องกันการระบาดของไวรัสนี้น้อยมาก
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (12) โธมัส ฟรายเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า เจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลหลายคนละเมิดขั้นตอนความปลอดภัยที่แนะนำอันเป็นเหตุให้ฟามติดเชื้อ
“ซีดีซีบอกว่ามีการละเมิดขั้นตอนความปลอดภัย แต่เหล่าพยาบาลยืนกรานว่า ไม่มีการแนะนำขั้นตอนความปลอดภัย” โรซานน์ ดีโมโร หัวหน้าสหภาพพยาบาลแห่งอเมริกาเปิดเผย
อย่างไรก็ดี แม้มีรายงานว่าอาการของฟามดีขึ้นแล้ว ทว่า เมื่อวันพุธกรมสาธารณสุขรัฐเทกซัสแถลงว่า พบพยาบาลอีกคนที่ดูแลดันแคน ได้ป่วยเป็นไข้ในวันอังคาร และผลการทดสอบเบื้องต้นแสดงว่าติดเชื้ออีโบลา โดยที่ได้นำตัวพยาบาลผู้นี้แยกไปรับการรักษาในส่วนกักกันโรคแล้ว
ทางด้านไลบีเรีย เมื่อตอนค่ำวันอังคาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศนี้ยินยอมยุติการหยุดงานนาน 2 วันเพื่อเรียกร้องขอค่าความเสี่ยงจากไวรัสอีโบลา โดยพวกเขาบอกว่าเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติที่กำลังเผชิญวิกฤตโรคร้าย รวมทั้งได้รับการเรียกร้องจากทั่วโลก
นับจากอีโบลาระบาดเมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไลบีเรียสังเวยชีวิตให้ไวรัสนี้แล้วถึง 95 คน บุคลากรที่เหลืออยู่จึงต้องการเงินชดเชยความเสี่ยงจากการติดเชื้ออีโบลาที่ขณะนี้ยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกัน
สถานีวิทยุแห่งหนึ่งในเมืองหลวงมันโรเวียรายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของผู้ป่วยคนหนึ่งในโรงพยาบาลว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนัดหยุดงาน ผู้ป่วยจำนวนมากพยายามปีนข้ามรั้วหนีกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่าว่า เพื่อนร่วมงานเสียชีวิตจากการถูกผู้ป่วยอีโบลากัด
“เราอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายอย่างมาก ต้องเสี่ยงชีวิตทุกวัน แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจชะตากรรมของเรา เราจึงเรียกร้องเงินชดเชยความเสี่ยงนี้”