เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ว่าพวกเขากำลังเร่งตามหาผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คนของเที่ยวบินหนึ่ง เพื่อดำเนินการซักถาม หลังพบว่าพยายาลผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ของสหรัฐฯ ได้โดยสารเครื่องบินภายในประเทศ หนึ่งวันก่อนถูกวินิจฉัยโรคว่าล้มป่วยด้วยไวรัสมรณะชนิดนี้ ขณะที่ข่าวคราวการพบผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรงอีกราย กระตุ้นให้ โอบามา ต้องเรียกประชุมฉุกเฉินที่ทำเนียบขาว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) อ้างคำบอกเล่าของลูกเรือระบุว่าผู้โดยสารหญิงรายดังกล่าวไม่แสดงอาการป่วยใดๆ ตอนที่อยู่บนเที่ยวบิน 1143 ของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส อย่างไรก็ตาม หน่วยงานแห่งนี้ต้องการพูดคุยกับผู้โดยสารทุกคนเพื่อสรุปว่ามีใครเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่
“สืบเนื่องจากความใกล้เคียงของช่วงเวลาระหว่างเที่ยวบินในตอนค่ำกับรายงานแรกเกี่ยวกับพบเห็นอาการป่วยในเช้าวันต่อมา ทางซีดีซี จึงพยายามติดต่อไปยังผู้โดยสารทุกคนที่โดยสารเครื่องบินของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 1143 จากคลีฟแลนด์ มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฟอร์ตเวิร์ทในดัลลัส เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางด้วยเที่ยวบินดังกล่าว ควรติดต่อมายังซีดีซี” ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ระบุ
ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของรัฐเทกซัส เสริมว่าผู้โดยสารคนนี้ถูกกักกันโรคในทันที หลังแจ้งว่าตนเองมีไข้ในวันอังคาร (14 ต.ค.) และญาติของคนไข้เปิดเผยในวันพุธ (15 ต.ค.) ว่าผู้ติดเชื้ออีโบลาคนที่ 2 รายนี้คือ คือพยาบาลประจำโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์เพรส ไบเทอเรียน ที่มีชื่อว่าแอมเบอร์ วินสัน อายุ 29 ปี
อีโบลาติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของร่างกายของผู้ติดเชื้อ แต่มันจะไม่แพร่กระจายสู่คนอื่นๆ จนกว่าคนไข้จะเริ่มแสดงอาการต่างๆ อย่างเช่นมีไข้ ปวดเมื่อย อาเจียนและท้องร่วง
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พยาบาลนีนา ฟาม กลายเป็นบุคคลแรกที่ติดเชื้ออีโบลาในสหรัฐฯ ขณะที่ทั้งสองเป็นหนึ่งในทีมผู้ดูแลนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรีย ผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะในแอฟริกาตะวันตก แต่มาแสดงอาการป่วยระหว่างเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวในเทกซัส ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในแผนกกักกันโรควันที่ 8 ตุลาคม
ข่าวคราวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ติดเชื้ออีโบลาเป็นรายที่ 2 มีขึ้นตามหลังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสหภาพพยาบาลและสมาคมวิชาชีพพยาบาลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวทางเบื้องต้นในการจัดการผู้ติดเชื้ออีโบลาของโรงพยาบาล โดยเหล่าพยาบาลบอกว่าโรงพยาบาลไม่มีร่างคำแนะนำสำหรับจัดการกับคนไข้อีโบลา ไม่มีการฝึกหัดล่วงหน้าและก็ไม่ได้จัดหาชุดป้องกันให้แก่พวกเขาอย่างเพียงพอ
จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ในแอฟริกาตะวันตกแล้วอย่างน้อย 4,447 คน แต่กรณีผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ และยุโรปยังอยู่ในวงจำกัด
ข่าวคราวการพบผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรงเป็นรายที่ 2 ส่งผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงในวันอังคาร (14 ต.ค.) และเรียกประชุมคณะตอบสนองต่อโรคระบาดอีโบลาของรัฐบาล ที่ทำเนียบขาวอย่างเร่งด่วน