เอเจนซีส์ - สำนักงานอัยการแผ่นดินเนเธอร์แลนด์มีถ้อยแถลงวานนี้ (14 ต.ค.) เกี่ยวกับสมาชิกแก๊งซิ่งมอเตอร์ไซค์ชาวดัตช์ที่เดินทางไปอิรักเพื่อช่วยทหารเคิร์ดต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยชี้ว่าสิ่งที่พลเมืองกลุ่มนี้ทำไม่ถือเป็น “อาชญากรรม” แต่อย่างใด
“กฎหมายเคยเอาผิดผู้ที่เข้าร่วมกับกองกำลังต่างชาติ แต่ปัจจุบันไม่เป็นที่ต้องห้ามอีกต่อไปแล้ว... ขอแค่คุณอย่าไปร่วมต่อสู้กับฝั่งศัตรูของเนเธอร์แลนด์ก็แล้วกัน” วิม เด บรูอิน โฆษกอัยการแผ่นดินดัตช์ เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี หลังมีกระแสข่าวว่าสิงห์นักบิดจากแก๊ง “โน เซอร์เรนเดอร์” บางคนเดินทางไปจับอาวุธช่วยกองกำลังเคิร์ดในภาคเหนือของอิรัก
คลาส ออตโต หัวหน้ากลุ่ม โน เซอร์เรนเดอร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ NOS ว่า สมาชิก 3 คนของกลุ่มซึ่งเป็นชาวกรุงอัมสเตอร์ดัม, ร็อตเตอร์ดัม และเบรดา ได้เดินทางไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวเคิร์ดใกล้ๆ เมืองโมซุล
ภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์แสดงให้เห็นว่า มีชายชาวดัตช์ชื่อ “รอน” ซึ่งมีรอยสักบนร่างกาย แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหาร ถือปืนอาก้า นั่งรวมอยู่กับเพื่อนทหารชาวเคิร์ด
นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอจากสำนักข่าวเคิร์ดที่เผยภาพชายชาวยุโรปถืออาวุธคนหนึ่งกล่าวเป็นภาษาดัตช์ว่า “ชาวเคิร์ดถูกกดขี่ข่มเหงมานานแล้ว”
หลายๆ ประเทศรวมถึงเนเธอร์แลนด์ได้พยายามสกัดกั้นไม่ให้พลเมืองเดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธไอเอส ซึ่งแผ่อิทธิพลยึดครองพื้นที่กว้างใหญ่ในอิรักและซีเรียอยู่ในเวลานี้ โดยมาตรการที่ว่ายังรวมถึงการยึดหนังสือเดินทางของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าจะไปทำญิฮาด และเตือนผู้ที่คิดจะทำเช่นนั้นว่าพวกเขาจะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอนเมื่อกลับมาบ้านเกิด
เด บรูอิน ชี้ว่า “ข้อแตกต่างที่สำคัญ (ระหว่างกองกำลังเคิร์ด) กับกลุ่มไอเอสก็คือ พวกหลังถูกประกาศเป็นองค์กรก่อการร้าย... ซึ่งหมายความว่า ใครก็ตามที่วางแผนหรือเตรียมตัวจะไปเข้าร่วมกับไอเอส ก็ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว”
อย่างไรก็ตาม พลเมืองเนเธอร์แลนด์ไม่สามารถไปเข้าร่วมกับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) เนื่องจากถูกรัฐบาลตุรกีและอีกหลายประเทศขึ้นบัญชีดำไว้ เด บรูอิน กล่าว
ทั้งนี้ ชาวดัชต์ที่ร่วมต่อสู้กับกองกำลังเคิร์ดก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน หากว่าพวกเขาไปก่ออาชญากรรม เช่น ทรมาน หรือข่มขืน เป็นต้น
“แต่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก็อยู่ไกลออกไปเหลือเกิน และคงยากที่จะหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้” เด บรูอิน กล่าวทิ้งท้าย