มิซซิมา - คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี กลายเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก และเนื่องจากในเวลานี้ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่แรงงานข้ามชาติชาวพม่า 2 คน ที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม “มิซซิมา” สำนักข่าวพม่าวานนี้ (8 ต.ค.) จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปขอสัมภาษณ์ อู ตุนตุน แต๊ก บิดาของ วิน ซอทูน 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยวัย 21 ปี
บิดาของ วิน อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกาปี เมืองเจ้าก์ผยู่ รัฐยะไข่ ประเทศพม่า
เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ฮานนาห์ วิเทอริดจ์ นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปี และเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวหนุ่มเมืองผู้ดีวัย 24 ปี ถูกสังหารบนเกาะเต่า จากนั้นก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับความพยายามสืบสวนคดีนี้ของเจ้าหน้าที่ โดยรัฐบาลไทยพยายามเร่งปิดคดีนี้เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมายืนกรานแทบไม่เว้นวันว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายไม่ใช่ “แพะ” แต่บรรดาองค์กรเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติก็ยังพากันแสดงความกังวลว่า แรงงานชาวพม่าทั้งสองอาจถูกบีบบังคับให้รับสารภาพ
มิซซิมา : วิน ซอทูน เดินทางไปทำงานในไทยได้อย่างไร?
พ่อ : หลังจากเขาเรียนจบ ม.3 แล้ว เราก็ส่งเขาไปเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนมัธยมปลายเจ้าก์ผยู่ 1 โรงเรียนประจำรัฐ พอไปเรียนที่นั่นเขาจึงรู้จัก ออง ซอลิน (ผู้ต้องสงสัยอีกราย) ที่มีพ่อแม่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ลูกชายผมเดินทางไปไทยพร้อมกับเพื่อนคนนี้ โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตเราเลย เขาเพิ่งบอกเราก็ตอนที่ไปถึงย่างกุ้ง เพื่อเดินทางเข้าไทย
มิซซิมา : เขาหาเงินค่าเดินทางมาจากไหน?
พ่อ: แม่ของ ออง ซอลิน โทรศัพท์มาหาผมตอนลูกเธอ กับลูกผมไปถึงย่างกุ้งแล้ว เธอบอกเราว่า ต้องจ่ายตั๋วเครื่องบินไปไทยคนละ 300,000 จัต ผมจึงโอนเงินไปให้
มิซซิมา : ตอนที่ลูกชายของคุณอยู่ที่ไทย เขาได้ติดต่อมาหาคุณบ้างไหมครับ?
พ่อ : ไม่นะ เขาไม่ได้ติดต่อมาหาผม เพราะตอนนั้นหมู่บ้านเรามีโทรศัพท์แค่เครื่องสองเครื่องเท่านั้น เขากลับหมู่บ้านอีกทีเมื่อช่วงสงกรานต์ แล้วก็กลับไทยไปเมื่อเดือนพฤษภาคม เมียผมขอไม่ให้เขากลับไปไทยแล้ว แต่เขาปฏิเสธ เขาบอกว่าต้องกลับไปทำงานในไทย
มิซซิมา : ทำไมคุณถึงไม่อยากให้พวกเขาไปไทย?
พ่อ : ลูกผมเป็นคนเอื้อเฟื้อและเป็นมิตร ถ้าใครเอ่ยปากขอเสื้อเขา เขาก็จะถอดให้ใส่ แล้วเดินกลับบ้านมาแบบไม่ใส่เสื้อ เขาไม่ใช่คนเถื่อน แม่เขากลัวเขาโดนหลอกตอนไปต่างประเทศ แต่ผมไม่ได้กังวลมากนักเพราะเขาโตแล้ว
มิซซิมา : คุณรู้เรื่องคดีฆาตกรรมนี้ได้อย่างไร?
พ่อ : คนในหมู่บ้านเดียวกับเรา ที่ไปทำงานที่เกาะเต่าบอกเราว่า วิน ซอทูน ถูกจับข้อหาฆ่าคนตาย แม่ของเขาไม่เชื่อเลย ลูกเธอไม่มีทางฆ่าใคร แต่พอเราได้เห็นข่าวทางทีวี เราก็ต้องเชื่อ เมียผมกินไม่ได้นอนไม่หลับตั้งแต่นั้นมา เธอจะบ้าเอาเสียให้ได้
มิซซิมา : คุณจะพยายามหาทางให้พวกเขาปล่อยตัวลูกคุณไหม คุณจะเดินทางไปย่างกุ้ง หรือประเทศไทยไหม?
พ่อ : เราไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เราไม่มีเงินไปย่างกุ้ง ไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไร
มิซซิมา : ลูกคุณได้เล่าให้คุณฟัง เรื่องงานที่ไทยอย่างไรบ้าง?
พ่อ : เราทราบว่าเขาทำงานที่ร้านอาหารและบังกะโล
มิซซิมา : เขามีพี่น้องไหม?
พ่อ: เขามีพี่ชายทำงานบนเรือประมงในไทย แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรารู้ว่ามีเจ้าหน้าที่พม่าเดินทางไปไทยเรื่องคดีของเขา ผมอยากทำคำขอไปถึงเจ้าหน้าที่พม่าและไทย เพื่อขอโอกาสคุยกับลูก
มิซซิมา : คุณคิดว่าเขาจะถูกปล่อยตัวไหม?
พ่อ : ผมไม่เชื่อเลยจริงๆ ว่าลูกชายผมฆ่าคนตาย ผมคิดว่าเขาจะถูกปล่อยตัวถ้ามีการสืบสวนคดีอย่างเป็นธรรมและเป็นระบบ