เทเลกราฟ - ในช่วงที่เกิดกระแสวิตกกังวลถึงวิธีการที่ตำรวจไทยใช้ดำเนินการสืบสวนคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยวานนี้ (14 ต.ค.) ได้ร่วมหารือกับตำรวจไทย และเจ้าหน้าที่พม่า โดยนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่จาก 3 ประเทศได้พูดคุยกันอย่างพร้อมหน้า ซึ่งอาจช่วยสร้างความกระจ่างแก่คดีนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าไม่มีการออกมาเปิดเผยรายละเอียดในการหารือครั้งนี้
มีรายงานว่า วานนี้ (14) ศาลได้เริ่มนัดสืบพยานล่วงหน้าก่อนส่งฟ้อง แรงงานชาวพม่า 2 คนที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเดวิด มิลเลอร์ ชายชาวอังกฤษวัย 24 ปี และฮานนาห์ วิเทอริดจ์ หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปี บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ศาลได้ปฏิเสธคำขอเลื่อนนัดสืบพยานล่วงหน้าก่อนส่งฟ้อง ภายหลังที่ทีมทนายความระบุว่าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายจำเลยของผู้ต้องหาทั้งสองคน จึงต้องการขอเวลาหาข้อมูลในคดีนี้ให้มากกว่านี้ก่อน
บางกอกโพสต์รายงานว่า ชาวพม่า 3 คนซึ่งเป็นพยานปากสำคัญได้เข้าให้การต่อศาลเกาะสมุย
มาร์ก เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้ร่วมหารือเรื่องคดีฆาตกรรมที่เกาะเต่ากับตำรวจไทย เอกอัครราชทูตพม่า และ “ผู้แทน” คนหนึ่งนาน 3 ชั่วโมง
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกอัครราชทูตไทยเข้าพบในช่วงที่การสืบสวนคดีฆาตกรรมของตำรวจไทยกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนจุดชนวนให้เกิดความวิตกกังวลในอังกฤษ
ฮิวโก สไวร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้แจ้งให้ ณัฐวัฒน์ กฤษณามระ อัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ปฏิบัติราชการแทนเอกอัครราชทูตทราบว่า อังกฤษกำลังมีความ “กังวลอย่างแท้จริง” ต่อวิธีการที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบของไทยใช้รับมือจัดการกับคดีฆาตกรรม นางสาวฮานนาห์ และนายมิลเลอร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวแรงงานชายชาวพม่า 2 คนที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ภายหลังที่พวกเขารับสารภาพ ก่อนที่จะมีรายงานว่าทั้งสองได้ถอนคำรับสารภาพในเวลาต่อมา
ผู้ต้องสงสัยทั้งสองซึ่งมีการระบุในรายงานว่า เป็นพนักงานบาร์วัย 21 ชื่อ ซอลิน และวิน ซอทูน ถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่า ร่วมกันข่มขืน และชิงทรัพย์ แต่ต่อมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตพม่าได้ถอนคำรับสารภาพของพวกเขาอย่างเป็นทางการ ในเวลาที่มีการกล่าวหาว่าทั้งคู่ถูกบีบให้รับสารภาพด้วยการทรมาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาปฏิเสธว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ถอนคำรับสารภาพ
สไวร์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เจ้าพนักงานไทยต้องดำเนินการสืบสวนคดีฆาตกรรมด้วยวิธีที่ “เป็นธรรมและโปร่งใส” และแจ้งให้ครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตรับทราบความคืบหน้าอย่างทันสถานการณ์
ภายหลังที่อัครราชทูตไทยได้พูดคุยกับสไวร์ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษก็ออกคำแถลงว่า “สไวร์เน้นย้ำว่า อังกฤษกำลังกังวลอย่างแท้จริง ต่อวิธีที่เจ้าหน้าที่พนักงานของไทยใช้ในการสืบสวน เขากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการสืบสวนด้วยวิธีที่เป็นธรรมและโปร่งใส”
สไวร์ย้ำว่า การแจ้งให้ทางการอังกฤษ และครอบครัวของฮานนาห์ และเดวิดรับทราบความคืบหน้าในการสืบสวนนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพียงใด เขาระบุด้วยว่ากำลังกังวลถึงวิธีที่ตำรวจใช้ประสานงานกับสื่อในคดีนี้ และกำชับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในการสืบสวน และกระบวนการทางกฎหมายในลำดับต่อไป”
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สไวร์ได้ร่วมหารือกับรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร เกี่ยวกับคดีนี้
ทั้งนี้ มิลเลอร์ซึ่งเดินทางมาจากเมืองเจอร์ซีย์ เสียชีวิตจากการจมน้ำและถูกตีที่ศีรษะ ขณะที่วิเทอริดจ์ ชาวเมืองเกรทยาร์เมาท์ เสียชีวิตจากบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ
