สื่ออังกฤษสัมภาษณ์แม่แรงงานพม่าผู้ต้องหา “คดีเกาะเต่า” ยันลูกชายตกเป็น “แพะรับบาป”

บีบีซี - สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (16 ต.ค.) ว่าแม่ของหนึ่งในแรงงานชายชาวพม่าที่ถูกกล่าวหาว่า ฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตำรวจกำลังทำให้ลูกชายของเธอตกเป็น “แพะรับบาป”

ซอลิน และวิน ซอทูน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม ฮานนาห์ วิทเธอริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ ที่ถูกสังหารบนหาดทรายรี ต.เกาะเต่า เมื่อเดือนที่แล้ว

พ่อแม่ของผู้ต้องสงสัยกล่าวกับบีบีซีว่า ลูกชายของตนบริสุทธิ์ และแม่ของ ซอลิน ชี้ว่า “คดีนี้ถูกจัดฉาก”

แนวทางการสืบสวนของตำรวจไทยกำลังตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว รวมถึงที่อังกฤษด้วย

นายซอ และนายวิน ซึ่งจะถูกตัดสินประหารชีวิต หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง เป็นแรงงานข้ามชาติที่เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า

พยู เชวนู แม่ของ ซอ กล่าวว่า “คดีนี้มีการจัดฉาก ให้ลูกชายดิฉันกลายเป็นแพะรับบาป”

“เขาไม่ดื่มเหล้า และไม่เคยก่อเหตุรุนแรงมาก่อน”

มยินต์ ตาน แม่ของ วิน กล่าวว่า เธอเลี้ยงลูกของเธอด้วยความลำบากแสนเข็ญ และตอนนี้ชีวิตของเขาถูกทำลาย

เธอกล่าวว่า ลูกชายเธอควรบอก “ความจริง” กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาไม่ผิด

โจนาห์ ฟิชเชอร์ ผู้สื่อข่าวชาวพม่าของบีบีซี รายงานว่า พ่อแม่ของแรงงานชายชาวพม่าทั้งสอง ที่ถูกกล่าวหาว่า สังหาร ฮานนาห์ วิทเธอริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ ระบุว่า ลูกชายของตนกำลังตกเป็น “แพะรับบาป”

ผลการชันสูตรศพชี้ว่า มิลเลอร์ นักท่องเที่ยววัย 24 ปีจากเจอร์ซีย์ เสียชีวิตจากการจมน้ำ และถูกตีที่ศีรษะ ขณะที่วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยววัย 23 ปีจาก หมู่บ้านเฮมส์บี มณฑลนอร์ฟอล์ก เสียชีวิตจากบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ

เมื่อวันอังคาร (14) ซอ และวินได้ถูกนำตัวขึ้นศาลเกาะสมุย เพื่อรับฟังการนัดสืบพยานล่วงหน้าก่อนส่งฟ้อง แต่พวกเขาไม่ได้ให้การ

ศาลได้ปฏิเสธคำขอเลื่อนนัดสืบพยานล่วงหน้าก่อนส่งฟ้อง ภายหลังที่ทีมทนายความระบุว่าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายจำเลยของผู้ ต้องหาทั้งสองคน จึงต้องการขอเวลาหาข้อมูลในคดีนี้ให้มากกว่านี้ก่อน

ผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่า ร่วมกันข่มขืน และชิงทรัพย์

ตำรวจระบุว่า ดีเอ็นเอที่ตรวจพบในร่างกายของวิทเธอริดจ์ ตรงกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บจากชายทั้งสอง

ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายกำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับการสืบสวนคดีนี้ คือการที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ หลังเกิดการฆาตกรรม และในช่วงแรกตำรวจยังออกคำแถลงระบุว่า ลักษณะการก่อเหตุสังหารชี้ว่าผู้กระทำไม่ใช่คนไทย

เมื่อวันจันทร์ (13) กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้เรียกอัครราชทูตไทยไปเข้าพบ เพื่อแสดง “ความกังวล” ถึงวิธีที่ไทยใช้จัดการกับการสืบสวน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ยอมรับว่า มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจริง แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีได้ทำงานอย่างสุดความสามารถแล้ว