เอเอฟพี - องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมระดับโลกแถลงวานนี้ (1 ต.ค.) ว่า ได้ปฏิเสธไม่ขอรับเงินบริจาค ที่ออสเตรเลียมอบให้สำหรับควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ “อีโบลา” แต่ขอให้แดนจิงโจ้ส่งแพทย์ไปยังแอฟริกาตะวันตกแทน เนื่องจากภูมิภาคนี้กำลังขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขอย่างสิ้นหวัง
องค์การแพทย์ไร้พรมแดน หรือ MSF ซึ่งย่อมาจากชื่อในภาษาฝรั่งเศส (Médecins Sans Frontières) ระบุว่า แคนเบอร์ราได้เสนอจะมอบเงินช่วยเหลือ 2.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 71 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม MSF ระบุว่า ตอนนี้องค์การกำลังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และไม่สามารถยกระดับภารกิจช่วยเหลือในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี ซึ่งเป็น 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงที่สุด
องค์การนี้ระบุในคำแถลงว่า “MSF ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะทำงานนี้เพียงผู้เดียว เราต้องปฏิเสธคนที่เดินทางมาคลินิก เนื่องจากคลินิกของเรารองรับผู้ป่วยเกินกำลังมานานหลายสัปดาห์แล้ว”
“ออสเตรเลียจะต้องเลิกหาข้ออ้าง แล้วร่วมต่อสู้กับเชื้อไวรัสอีโบลา”
องค์การแห่งนี้ระบุว่า “กระทั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลียจำนวนเล็กน้อยก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้”
MSF กล่าวว่า “กระทั่งเจ้าหน้าที่ผู้ผ่านการอบรมเพียงสิบกว่าคน ที่สามารถควบคุมดูแลทีมเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นให้บริหารจัดการศูนย์กักกัน ช่วยตรวจหาโรค และช่วยดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ก็สามารถช่วยชีวิตผู้คนหลายพันคนไว้ได้แล้ว”
พอล แมคพัน ผู้อำนวยการบริหารองค์การแพทย์ไร้พรมแดนประจำออสเตรเลียเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวในทุกๆ สามสัปดาห์
เขากล่าวว่า “สถิติเหล่านี้ช่างน่าตกตะลึง แต่กระนั้นประเทศต่างๆ อย่างออสเตรเลียที่มีศักยภาพในการพลิกสถานการณ์ก็ยังเกี่ยงความรับผิดชอบ และปฏิเสธที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนไปให้ความช่วยเหลือ” ในพื้นที่
“เมื่อเห็นความเป็นจริงในวันนี้ ก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่า ออสเตรเลียกำลังรอให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ขอร้องก่อน จึงจะยอมช่วย”
องค์การอนามัยโลกระบุว่า ในระหว่างการแพร่ระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดของเชื้ออีโบลา ก็พบผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้น 6,500 ราย โดยในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วเกือบครึ่ง แม้ว่ามีแนวโน้มที่ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ เนื่องจากการรายงานที่ล่าช้า