เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ แห่งไลบีเรีย ออกคำสั่ง “เคอร์ฟิว” ห้ามประชาชนออกจากที่พักอาศัยยามค่ำคืน ซึ่งจะมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (20 ส.ค.) พร้อมประกาศให้อีก 2 ชุมชนเป็นพื้นที่กักกันเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา โดยหนึ่งในนั้นคือชุมชนแออัดในกรุงมันโรเวีย
“ตั้งแต่วันพุธที่ 20 สิงหาคม รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 21.00-06.00 น.” เซอร์ลีฟ แถลงผ่านสื่อวิทยุเมื่อวานนี้ (19)
“สถานบันเทิงทุกแห่งจะต้องปิดให้บริการ ศูนย์วีดีโอทุกแห่งจะต้องปิดในเวลา 18.00 น.”
พื้นที่กักกันที่ประกาศใหม่ 2 แห่ง ยังรวมถึงชุมชนแออัด เวสต์พอยต์ ภายในเมืองหลวงไลบีเรียด้วย
ลิวอิส บราวน์ รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลของไลบีเรีย แถลงยืนยันวานนี้ (19) ว่า ได้ตัวผู้ติดเชื้ออีโบลา 17 คนที่สูญหายไปกลับคืนมาแล้ว หลังจากพวกเขาหลบหนีออกจากศูนย์กักกันในเวสต์พอยต์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (16) ระหว่างที่สถานพยาบาลแห่งนี้ถูกกลุ่มวัยรุ่นถือกระบองบุกเข้าโจมตี
การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสอีโบลาทำให้ประธานาธิบดีหญิงแห่งไลบีเรียต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ทว่าสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น
หน่วยงานสาธารณสุขขององค์การสหประชาชาติสรุปยอดผู้ติดเชื้ออีโบลาที่ยืนยันแล้วและผู้ต้องสงสัยรวมทั้งสิ้น 2,240 ราย ถือเป็นการระบาดครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก
ไลบีเรียเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยอีโบลาเสียชีวิตมากที่สุด ปัจจุบันอยู่ที่ 466 ราย
“การที่เรายังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ประชาชนยปฏิเสธที่จะยอมรับ ขั้นตอนการทำศพแบบดั้งเดิม การไม่ใส่ใจคำแนะนำของแพทย์ และการไม่เคารพคำเตือนจากรัฐบาล” เซอร์ลีฟกล่าวในทำนองโอดครวญ
กินี และเซียร์ราลีโอน ซึ่งมีการระบาดของไวรัสอีโบลาเช่นกัน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 394 และ 365 รายตามลำดับ
ไนจีเรียซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแอฟริกา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 15 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
