เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าโจมตีศูนย์กักกันผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ในกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรียในวันอาทิตย์ (17 ส.ค.) เป็นเหตุให้ผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะจำนวนอย่างน้อย 17 รายหลบหนีไปได้ และถือเป็น “ข่าวร้าย” สำหรับความพยายามของทางการในการควบคุมและรับมือกับการแพร่ระบาด ที่ลุกลามจนเข้าขั้นคุมไม่อยู่ของไวรัสชนิดนี้
เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ประสบกับความยากลำบากในการรับมือกับเชื้อไวรัสอีโบลาที่ยังไม่มีหนทางรักษาซึ่งได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 1,145 รายในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกนับตั้งแต่ที่การระบาดเริ่มปะทุขึ้นในเขตป่าลึกของประเทศกินีเมื่อต้นปี
นอกเหนือจากความยากลำบากในการต่อสู้กับไวรัสมรณะแล้ว แพทย์และพยาบาลยังคงต้องเผชิญกับการทำงานภายใต้ภาวะของความไม่ไว้วางใจจากผู้คนในชุมชน ที่มักหลงเชื่อกระแสข่าวลือที่ว่า ไวรัสอีโบลานี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาติตะวันตก และมีการจงใจให้เกิดการแพร่ระบาดในแอฟริกา
ด้านรีเบคกา เวสเซห์หนึ่งในพยานผู้เห็นเหตุการณ์โจมตีทีเกิดขึ้นในกรุงมอนโรเวีย ออกมาเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นชายและคนหนุ่มได้ใช้ไม้พลองเป็นอาวุธได้บุกเข้าทำลายประตูของศูนย์กักกันผู้ติดเชื้อ และฉกชิงทรัพย์สินมีค่าต่างๆที่อยู่ภายใน ขณะที่บรรดาผู้ป่วยก็ได้ฉวยโอกาสหลบหนีออกไปสู่โลกภายนอก
ขณะที่ จอร์จ วิลเลียมส์ ประธานสมาคมแรงงานด้านสาธารณสุขแห่งไลบีเรียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจำนวน 17 คนจากทั้งหมด 29 คนที่ถูกกักตัวไว้ดูแลในศูนย์ดังกล่าวได้หลบหนีออกไป
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเมื่อฝูงชนนับพันคนในเซียร์ราลีโอน พยายามบุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ติดเชื้ออีโบลาที่เมืองเคเนมาทางภาคตะวันออกของประเทศ โดยมีการข่มขู่จะเผาโรงพยาบาลและปล่อยตัวบรรดาผู้ติดเชื้อ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวนกว่า 1,500 นายต้องเข้าควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในแอฟริกาตะวันตก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1,145 คนภายในระยะเวลา 5 เดือนนั้น ถูกระบุว่า เป็นการระบาดของเชื้ออีโบลาครั้งที่ถือได้ว่ามีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ที่เชื้อมรณะที่ยังไม่มีหนทางรักษาชนิดนี้ ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1976
ด้านข้อมูลที่มีการอัพเดตล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ไลบีเรียเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาสูงที่สุดที่อย่างน้อย 413 ราย รองลงมาคือกินี 380 ราย, เซียร์ราลีโอน 348 ราย และไนจีเรียอีก 4 ราย
