เอเจนซีส์ - ริก เพอร์รี (Rick Perry)ผู้ว่าการรัฐเทกซัสเปิดแถลงถึงกลุ่มสงสัยต้องเฝ้าระวังจำนวน 18 รายที่มีการติดต่อสัมผัสร่างกายโทมัส อีริก ดันแคน(Thomas Eric Duncan) ผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลาชาวไลบีเรียที่ได้รับการวินิจฉัยรายแรกในสหรัฐฯหลังจากที่บินมาจากไลบีเรียว่า มีกลุ่มนักเรียนรวมอยู่ในจำนวนนี้ซึ่งมีเด็กระดับประถมศึกษารวมอยู่ในนั้น และพบว่าเด็กกลุ่มนี้ไปโรงเรียนตามปกติในสัปดาห์นี้ สร้างความวิตกให้กับผู้ปกครองนักเรียนในรัฐเทกซัสอย่างมาก และได้รับตัวลูกหลานที่ได้เข้าโรงเรียนร่วมกับเด็กกลุ่มเสี่ยงกลับบ้านในวันพุธ(1) ซึ่งล่าสุดอาการของผู้ป่วยชาวไลบีเรียทรุดหนัก และพบสาเหตุการติดเชื้ออาจเกิดจากการที่ดันแคนได้ช่วยลูกสาวของเจ้าของอพาทเมนต์ให้เช่าในไลบีเรียที่ล้มป่วยขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล 4 วันก่อนออกเดินทาง
ริก เพอร์รี (Rick Perry)ผู้ว่าการรัฐเทกซัสเปิดแถลงข่าวในวันพุธ(1)ยอมรับว่า มีกลุ่มสงสัยต้องเผ้าระวัง 18 คนที่ได้ติดต่อและสัมผัสกับโทมัส อีริก ดันแคน(Thomas Eric Duncan) คนไข้อีโบลาคนนี้หลังจากบินเข้ามายังสหรัฐฯจากไลบีเรีย และในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย ซึ่งพบว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเด็กนักเรียน 5 คนที่อยู่ในโรงเรียน 4แห่งที่รัฐเทกซัส ได้ติดต่อสัมผัสกับผู้ป่วยชาวไลบีเรียนที่ได้รับการวินิจฉัยในวันอังคาร(30)ว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลาในแผ่นดินอเมริกา และเด็กนักเรียนทั้งหมดกลุ่มนี้มาจากโรงเรียนประถม 2 แห่ง รวมไปถึงโรงเรียนมัธยมต้น 1 แห่งและโรงเรียนมัธยมปลายอีก 1 แห่ง และเด็กได้ไปโรงเรียนตามปกติในช่วงสัปดาห์นี้ สร้างความตกตื่นให้กับกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนในรัฐเทกซัส
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รัฐเทกซัสที่ร่วมแถลงกับเพอร์รีชี้แจงว่า ดันแคนเดินทางจากไลบีเรียเข้ามายังสหรัฐฯในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาเพื่อเยี่ยมครอบครัว ทั้งนี้พี่สาวของดันแคน ไม พูเรห์ (Mai Wureh) ได้เผยกับสื่อว่า ดันแคนน้องชายของเธอเดินทางไปที่โรงพยาบาล เทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน (Texas Health Presbyterian Hospital) ในครั้งแรกเพราะรู้สึกป่วยและให้ข้อมูลกับทางโรงพยาบาลว่า เขาเดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตก เขตที่มีโรคอีโบลาระบาดหนักแต่กลับได้รับ “ยาแก้อักเสบ” กลับไปก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน ทำให้รัฐเทกซัสสูญโอกาสในการป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสอีโบลา
ไมค์ ไมเลส(Mike Miles) หัวหน้าการศึกษาโรงเรียนเขตการศึกษาของดัลลัสแถลงในวันพุธ(1)ว่า เด็กนักเรียนที่ได้มีการติดต่อสัมผัสดันแคนนั้นยังไม่แสดงอาการติดเชื้ออกมา และขณะนี้อยู่ในการเฝ้าดูอาการที่บ้านของเด็กเหล่านั้นเป็นเวลา 21วันในมาตรการเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ใช่การกักกันโรค และโรงเรียนของเด็กในกลุ่มเสี่ยงยังเปิดการเรียนการสอนปกติ แต่ทว่าผุ้ปกครองจำนวนมากในดัลลัสที่ทราบข่าวและมีลูกหลานเรียนร่วมโรงเรียนนักเรียนกลุ่มเสียงได้รับเด็กเหล่านั้นกลับบ้านเมื่อวานนี้(1)
โรงเรียนL.L. Hotchkiss Elementary School ในดัลลัสได้ส่งจดหมายถึงผู้ปกครองกล่าวว่า “ในเช้าวันนี้ทางโรงเรียนได้รับแจ้งว่า มีนักเรียนของเราคนหนึ่งอาจติดต่อและสัมผัสกับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้ออีโบลา และในขณะนี้นักเรียนคนนี้ยังไม่แสดงอาการใดๆ และอยู่ภายใต้การเฝ้าจับตาของแผนกสาธารสุขและบริการมนุษย์ของดัลลัสเคาน์ตี และจากมาตรการป้องกัน นักเรียนผู้นี้ถูกแนะนำให้หยุดอยู่กับบ้าน และเป็นเพราะเด็กนักเรียนรายนี้ยังไม่แสดงอาการใดปรากฏมา จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะมีการติดต่อของโรคไปสู่นักเรียนคนอื่นหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียน”
ทั้งนี้พบว่าเมื่อวานนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจพบผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ซาครารีย์ ทอมป์สัน(Zachary Thompson) ผู้อำนวยการแผนกสาธารสุขและบริการมนุษย์ของดัลลัสเคาน์ตีให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ท้องถิ่น WFAA-TV ในเช้าวันพุธ(1)ว่า “ผมขอพูดความจริงกับชาวดัลลัสว่า มีการยืนยันถึงผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลารายแรกเกิดขึ้น และอาจจะเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยรายที่2ที่ได้มีการสัมผัสหรือติดต่อกับคนไข้รายแรก ดังนั้นนี่เป็นเรื่องจริง แต่ในขณะนี้ยังอยู่ในกลุ่มสมาชิกครอบครัวและเพื่อนใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อรายแรกเท่านั้น”
และในกลุ่ม 18 คนที่มีการเฝ้าระวัง สมาชิกครอบครัวของดันแคนรวมอยู่ในนั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่รถพยาบาลฉุกเฉินที่นำตัวเขาส่งโรงพยาบาล
เพอร์รีให้ความมั่นใจว่า ทีมแพทย์รัฐเทกซัสสามารถให้ความปลอดภัยในสุขภาพของชาวเทกซัสได้อย่างแน่นอน ด้านนายแพทย์มาร์ก เลสเตอร์(Mark Lester)แถลงยืนยันที่โรงพยาบาล เทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน ว่า พยาบาลฉุกเฉินที่พบกับดันแคนครั้งแรกสอบถามผู้ป่วยว่า เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดโรคอีโบลาหรือไม่ แต่ทั้งนี้ข้อมูลอาจส่งไปยังทีมเจ้าหน้าที่การแพทย์ไม่ทั่วถึง โดยดันแคนได้รับการตรวจเลือด แต่ไม่ได้รับการตรวจหาไวรัสอีโบลา
ขณะนี้ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลารายแรกในแผ่นดินสหรัฐฯอยู่ในอาการขั้นวิกฤตแต่ยังทรงตัว และถูกกักกันโรคตั้งแต่วันอาทิตย์(28)ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในสหรัฐฯเกือบสัปดาห์แล้วก็ตามก่อนที่จะถูกกักกัน โดยแพทย์เทกซัสได้กล่าวถึงผู้ป่วยเมื่อวานนี้(1)ว่า ดันแคนรู้สึกตัว สามารถพูดคุยได้ และขออาหารรับประทานได้
นิวยอร์กไทม์ส รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวไลบีเรียผู้นี้ทำงานให้กับบริษัทชิปปิงในกรุงมอนโรเวีย ไลบีเรีย ก่อนที่จะลาออกจากงานและได้วีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯ และสื่อสหรัฐฯยังเผยว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่ดันแคนอาจติดเชื้อไวรัสจากการที่เขาได้อุ้มลูกสาวของเจ้าของอพาทเมนท์ของเขาที่ได้เช่าอาศัยซึ่งป่วยหนักเพื่อขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล 4 วันก่อนที่จะบินเข้าสหรัฐฯ และพบว่าเด็กสาวที่ดันแคนช่วยได้เสียชีวิตในวันต่อมา และลูกชายของเจ้าของอพาทเมนท์รวมไปถึงเพื่อนบ้านอีก 2 รายที่สัมผัสกับเด็กสาวรายนี้ต่างเสียชีวิตทั้งหมด
รัฐบาลไลบีเรียแถลงข่าวเมื่อวานนี้(1)ยืนยันว่า ดันแคนไม่ได้แสดงอาการผิดปกติที่จะติดเชื้อในขณะที่เขาเดินทางเข้าสหรัฐฯโดยบินแวะจอดที่กรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 19 กันยายน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขเบลเยียมแถลงว่า ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯได้ให้ข้อเสนอแนะกับกระทรวงว่า ในขณะนั้นดันแคนไม่ได้แสดงอาการติดเชื้ออีโบลาแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นพาหะแพร่เชื้อไปให้คนอื่น และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขเบลเยียมแถลงเพิ่มเติมว่า ดังนั้นทางกระทรวงจึงไม่จำเป็นต้องสืบหาย้อนหลังถึงผู้โดยสารหรือลูกเรือสายการบินบรัสเซลแอร์ไลน์ส(Brussel Airline) ซึ่งเป็น1 ในไม่กี่สายการบินที่ยังคงบินไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรคอีโบลา เช่น กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน
ทั้งนี้ดันแคนเริ่มป่วยในวันที่ 24 กันยายน 4 วันหลังจากที่เขาบินมาถึงสหรัฐฯ และได้เข้าไปขอรับการรักษาที่โรงพยาบาล เทกซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียนในวันที่ 26 กันยายน ซึ่งเขาได้รับยาปฎิชีวนะและถูกส่งตัวกลับบ้านในวันนั้น และในวันที่ 28 กันยายน ดันแคนถูกส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลด้วยรถโรงพยาบาลในสภาพป่วยหนัก ที่มีอาการอาเจียน และถูกกักกันโรค
ซึ่งทำให้เป็นการเกรงว่าในช่วง 4วันที่เขามีอาการโรคอีโบลา ดันแคนติดต่อสัมผัสกับคนในรัฐเทกซัส และมีความเสี่ยงจะเป็นพาหะโรคติดผู้อื่นมากที่สุดส่งผลให้ CDC สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯต้องส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยังดัลลัสในวันพุธ(1)และเดินเคาะประตูบ้านทุกหลังเพื่อสืบหาว่ามีใครบ้างที่ได้ติดต่อกับดันแคน
ด้านผู้อาศัยในอพาทเมนท์ไอวีซึ่งดันแคนและพี่สาวรวมถึงเด็กๆได้อาศัยอยู่ต่างแสดงความวิตกอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแหล่งข่าวจากแผนกดับเพลิงดัลลัสกล่าวว่า ชายที่มีเชื้อไวรัสอีโบลานั้นถูกรถพยาบาลไปรับที่อพาทเมนต์ไอวี ทางเหนือของดัลลัส
“ดิฉันไม่ได้เห็นหน้าของเขา แต่เห็นเจ้าหน้าที่จากรถพยาบาลฉุกเฉินกำลังยกผุ้ป่วยเข้าไปภายในตัวรถ ดิฉันไม่ทราบชื่อของเขาแต่รู้เพียงว่าเขาอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้กัน” เอลิซาเบธ เรย์โอ(Elizabeth Rayo) คุณแม่ลูกสามมองผู้ป่วยถูกยกออกมาจากอพาทเมนท์ และนำเข้าไปในตัวรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยเธอเผยว่าผู้อาศัยในอพาทเมนต์รายอื่นไม่ทราบเลยว่า ชายผุ้นี้ป่วยเป็นโรคอีโบลา และเรย์โอกล่าวต่อว่า “ไม่มีใครบอกอะไรกับเรา ดิฉันเพิ่งทราบว่าอพาทเมนท์ของตนเองเป็นจุดเกิดเหตุก็ต่อเมื่อเห็นข่าวทางสื่อ” ตุณแม่ลูกสามวัย 29ปีที่อาศัยในอพาทเมนต์ไอวีแห่งนี้มา 2ปีกล่าวต่อว่า “แน่นอนที่สุดดิฉันย่อมรู้สึกเป็นกังวลเพราะดิแนมีลูก 3 คน และถ้าชายคนนั้นมีไวรัสอีโบลาจริง ทางการรัฐเทกซัสสมควรเตือนเราก่อนหน้านี้ และสมควรอนุญาตให้เราออกจากอพาทเมนต์แห่งนี้”
อย่างไรก็ตามไม่มีเจ้าหน้าที่ CDC อยู่ในบริเวณอพาทเมนต์ และแซลลี ผู้จัดการอพาทเมนต์ได้ไล่สื่อไม่ให้เข้าไปทำข่าว ดดยกล่าวว่าเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล และอ้างว่าเธอไม่ทราบว่ามีชายติดเชื้ออีโบลาอาศัยที่อพาทเมนท์แห่งนี้ และต่อจากนั้นไม่นานมีรถตำรวจ 2คันเข้ามาจอดและนำกลุ่มนักข่าวออกไป
ผู้เช่าบางส่วนได้ให้ข้อมูลว่า อพาทเมนต์แห่งนี้มีคนอาศัยอยู่ร่วม 400 คน และไม่มีใครทราบเลยว่ามีผู้ติดเชื้ออีโบลาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งค่าเช่าอพาทเมนต์ตกเดือนละ 800 ดอลลาร์สำหรับอพาทเมนต์ขนาด 2 ห้องนอน ในขณะที่ผู้อาศัยใกล้เคียงกับอพาทเมนต์ไอวีต่างกังวลที่รัฐเทกซัสไม่ประกาศให้อพาทเมนต์ไอวีเป็นเขตกักกันโรค
ทั้งนี้ในการให้การรักษาดันแคนพบว่า ดันแคนจะไม่ได้รับเซรุมทดลองZmapp เพราะในขณะนี้ไม่มีแล้ว