รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล พยายามดึงทั่วโลกให้กลับมาใส่ใจปัญหานิวเคลียร์อิหร่านมากกว่าภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยกล่าวเตือนกลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ วานนี้ (29 ก.ย.) ว่า คลังนิวเคลียร์ของเตหะรานอันตรายยิ่งกว่า “พวกอิสลามิสต์บนรถปิกอัพ” เป็นไหนๆ
การกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธซึ่งบุกยึดดินแดนในอิรักและซีเรียเป็นบริเวณกว้าง และสังหารทั้งทหารและพลเรือนอย่างเหี้ยมโหด เป็นหัวข้อหลักของการกล่าวสุนทรพจน์ทั้งบนเวทีสมัชชาใหญ่ยูเอ็น และการประชุมนอกรอบต่างๆ ที่นิวยอร์ก ตลอด 5 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เนทันยาฮูชี้ว่า อิหร่าน ไอเอส และขบวนการฮามาสที่ควบคุมฉนวนกาซาอยู่ ถือเป็น “พวกเดียวกัน” และยังเปรียบเปรยทั้งสามกลุ่มว่าไม่ต่างจากนาซีเยอรมนีที่ไล่สังหารชาวยิวไปถึง 6 ล้านคน เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“พวกนาซีเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของเผ่าพันธุ์อารยัน อิสลามิสต์ก็เชื่อว่าความศรัทธาของพวกเขาเหนือกว่าคนอื่นเช่นกัน... พวกเขาแค่เห็นไม่ตรงกันว่าความเชื่อของกลุ่มไหนถูกต้องและยิ่งใหญ่ที่สุด” เนทันยาฮูแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นซึ่งมีสมาชิก 193 ประเทศเข้าร่วม
“ถึงอย่างไรเสียพวกไอเอสก็จะต้องถูกทำลายลงให้ราบคาบ... แต่การมุ่งกวาดล้างพวกเขาและปล่อยให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ จะเป็นการชนะสงครามหนึ่ง แต่แพ้อีกสงครามหนึ่ง”
“การต่อสู้กับกลุ่มอิสลามิสต์บนรถปิ๊กอัปที่มีแค่ปืนอาก้าเป็นอาวุธ กับการต่อสู้กลุ่มอิสลามิสต์ที่มีอาวุธทำลายล้างสูงนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
รัฐบาลอิหร่านยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธทำลายล้างสูง และต้องการให้ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ก่อนที่จะยอมทำข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์กับกลุ่ม P5+1 ซึ่งได้แก่ อังกฤษ, สหรัฐฯ, รัสเซีย, จีน, ฝรั่งเศส บวกด้วยเยอรมนี
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่า เนทันยาฮูจะใช้วิธีกล่าวหาอิหร่าน ไอเอส และฮามาส ว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เพื่อตอกย้ำข้อสงสัยของ ส.ส.สหรัฐฯ บางคนเกี่ยวกับการตัดสินใจของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่หันไปผูกมิตรกับอิหร่านเพื่อลดการเผชิญหน้าด้านนิวเคลียร์ที่มีมายาวนานถึง 12 ปี หลังจากประธานาธิบดีฮัสซัน รอฮานี ผู้นำสายปฏิบัตินิยม ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเตหะรานในปี 2013
“ทุกท่านทราบดีว่าการอ้างว่าอิหร่านไม่สนับสนุนลัทธิก่อการร้าย ก็เหมือนกับการพูดว่า เดเร็ก เจเตอร์ ไม่เคยเล่นตำแหน่ง shortstop ให้กับทีมเบสบอล นิวยอร์ก แยงกีส์ อย่างไรอย่างนั้น”
ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่าคิดเห็นอย่างไรกับการที่ผู้นำอิสราเอลกล่าวหาว่า อิหร่าน ไอเอส ฮามาส และฮิซบอลเลาะห์ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการมุสลิมที่ต้องการครอบงำโลก ซึ่งก็ได้คำตอบจากเธอว่า “เราไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายเช่นนั้นแน่นอน”
เนทันยาฮูกล่าวย้ำอีกว่า “ศักยภาพของกองกำลังนิวเคลียร์อิหร่านจะต้องถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์” พร้อมชี้ว่า ประธานาธิบดีรอฮานี และรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ดูนุ่มนวล เพื่อหลอกให้นานาชาติตายใจและยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร “จากนั้นอิหร่านก็จะเดินหน้าผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้อย่างไร้อุปสรรค”
ผู้นำอิหร่านประกาศสนับสนุนการกวาดล้างกลุ่มไอเอสซึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงที่มองว่าผู้นับถือนิกายชีอะห์ในอิหร่านเป็นพวกนอกศาสนา แต่ขณะเดียวกันก็ระบุว่า ปัญหานี้ควรให้ประเทศในตะวันออกกลางจัดการกันเอง
อิหร่านและมหาอำนาจ P5+1 ได้จัดการประชุมนอกรอบที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็น ณ นครนิวยอร์กเป็นเวลา 10 วัน ทว่า ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถก้าวข้ามประเด็นขัดแย้งสำคัญๆ เช่น อนาคตของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และกรอบเวลาในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร เป็นต้น
เจ้าหน้าที่อิหร่านและตะวันตกระบุว่า การเจรจารอบใหม่อาจมีขึ้นที่ยุโรปในอีก 2 สัปดาห์หน้า