xs
xsm
sm
md
lg

เจรจาพักรบส่อแววเป็นหมัน ยิวลั่นไม่คุยด้วยหากปาเลสไตน์ยังยิงจรวดใส่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีอิสราเอล "เบนจามิน เนทันยาฮู" ประกาศจะไม่ยอมกลับไปเจรจาเพื่อหยุดการสู้รบในฉนวนกาซา หากกองกำลังปาเลสไตน์ยังไม่ยอมหยุดโจมตีด้วยการยิงจรวดข้ามพรหมแดนเข้ามา ขณะที่ตัวแทนปาเลสไตน์ขู่ว่าจะล้มเลิกการเจรจาหยุดยิงครั้งนี้ หากทางอิสราเอลไม่ยอมส่งตัวแทนมาพูดคุย

เนทันยาฮู บอกกับคณะรัฐมนตรีของเขาในระหว่างการประชุมที่กระทรวงกลาโหมในกรุงเทลอาวีฟว่า อิสราเอลจะไม่ยอมเข้าร่วมการเจรจาหากยังคงโดนโจมตีอยู่แบบนี้ และจะเดินหน้าทำทุกวิถีทางเพื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อนำความสงบมาสู่ชาวอิสราเอลทุกคน

คำพูดของเขาถูกกล่าวออกมาในขณะที่ตัวแทนปาเลสไตน์ขู่ว่าจะล้มเลิกความพยายามที่จะเจรจาหยุดยิง หากทางอิสราเอลไม่ยอมส่งตัวแทนมาเจรจาภายในเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ของวันอาทิตย์ (10 ส.ค.)

อิสราเอลได้เรียกทีมเจรจาออกจากกรุงไคโรเมื่อวันศุกร์ (8 ส.ค.) โดยกล่าวหากลุ่มฮามาสว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 3 วันด้วยการยิงจรวดเข้าใส่พื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล

เนทันยาฮู ระบุว่า ยังไม่คิดที่จะหยุดปฏิบัติการทางทหารซึ่งเริ่มโจมตีทางอากาศตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนการโจมตีภาคพื้นดินได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม จนกระทั่งมีการถอนกำลังออกมาเมื่อวันอังคารที่แล้ว

อิสราเอลยังคงวางกำลังไว้ตามบริเวณชายแดนของฉนวนกาซา พร้อมทั้งใช้การโจมตีทางอากาศหลายครั้ง นับตั้งแต่ช่วงเวลาพักรบ 72 ชั่วโมงได้สิ้นสุดลงเมื่อเช้าวันศุกร์ (8 ส.ค.)

เนทันยาฮู ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลจะยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่หยุดยั้ง จนกว่าจะประสบผลตำเร็จตามเป้าที่วางไว้ นั่นก็คือความสงบสุขที่ยั่งยืน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน จึงควรจะต้องอดทนไว้

ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี มีรัฐมนตรี 2 รายที่เป็นพวกสายแข็ง ได้เรียกร้องให้ส่งทหารกลับเข้าไปในฉนวนกาซาเพื่อจัดการกับกลุ่มฮามาส ที่มีอำนาจอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเจรจาในกรุงไคโรในวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) เพื่อพูดคุยเรื่องการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งตามกำหนดแล้วตัวแทนของฝ่ายอิสราเอลจะต้องเดินทางมาที่เมืองนี้ ขณะที่ทางปาเลสไตน์และอียิปต์ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

แต่เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลบอกกับเอเอฟพีว่า การเจรจาจะยังไม่อาจเกิดขึ้นได้ จนกว่าการยิงจรวดของฝั่งปาเลสไตน์จะหยุดลง โดยเมื่อวันเสาร์ (9 ส.ค.) กองกำลังชาวปาเลสไตน์ได้ยิงจรวด 25 ลูกเข้าใส่อิสราเอล

หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการหยุดยิงรอบใหม่ เพื่อยับยั้งความสูญเสียจากการสู้รบครั้งนี้ ที่ล่าสุดได้ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 2,000 ราย ตลอดเดือนที่แล้ว ส่วนทางฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 67 ราย ส่วนใหญ่เป็นทหาร

โฆษกของกองทัพอิสราเอลระบุว่า มีจรวดอีก 2 ลูก ยิงเข้ามาในดินแดนของอิสราเอลเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) ขณะที่กองทัพอากาศของอิสราเอลก็ได้ทำการโจมตีอีก 17 ครั้ง

ทั้งนี้ ตัวแทนเจรจาของชาวปาเลสไตน์ได้เตือนว่า จะออกจากเมืองหลวงของอียิปต์หากตัวแทนของอิสราเอลไม่ยอมปรากฏตัวมาในวันนี้ (10 ส.ค.) โดยได้กำหนดเส้นตายเอาไว้ที่เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

อัซซัม อัล-อาเหม็ด หัวหน้าคณะตัวแทนเจรจาของฝั่งปาเลสไตน์บอกกับเอเอฟพีว่า ได้นัดกับผู้ไกล่เกลี่ยของทางอียิปต์ไว้ในวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) พร้อมทั้งยืนยันว่า หากอิสราเอลตั้งข้อเรียกร้องใดๆ เพื่อเป็นเงื่อนไข เขาจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้ อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวันเสาร์ (9 ส.ค.) ให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาส ตกลงหยุดยิงกันในทันที

ขณะที่ มุซซา อาบู มาร์ซุก ผู้นำของกลุ่มฮามาส ได้เตือนว่าในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงข้างหน้าจะเป็นช่วงที่สำคัญมาก เพราะจะเป็นช่วงตัดสินชี้ชะตาของการเจรจา ในขณะที่ทางอิสราเอลมัวแต่เตะถ่วง

เขาระบุว่า จะไม่ใช้เวลานานนักหากไม่มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง พร้อมกับมองว่าทางอิสราเอลดูจะไม่จริงจังกับการเจรจาครั้งนี้ซักเท่าไหร่ และถึงแม้ว่าปาเลสไตน์ไม่ต้องการให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นอีก แต่ถ้าหากข้อเรียกร้องของฝ่ายตนไม่ได้รับการตอบรับ ปาเลสไตน์ก็จะไม่ยอมตกลงหยุดยิงด้วย

การพูดคุยในกรุงไคโรต้องล่มไปในวันศุกร์ (8 ส.ค.) หลังจากที่กลุ่มฮามาสได้กล่าวหาว่าอิสราเอลกำลังพยายามเตะถ่วงพร้อมกับปฏิเสธที่จะขยายเวลาหยุดยิง 72 ชั่วโมงออกไปอีก ทำให้การสู้รบปะทุขึ้นอีกครั้งจนมีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ 10 รายเมื่อวันเสาร์ (9 ส.ค.) จากการโจมตีทางอากาศ 50 ครั้งของเครื่องบินรบอิสราเอลเข้าใส่พื้นที่ฉนวนกาซา

การต่อสู้ในเดือนที่แล้ว ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงไปทั่วพื้นที่ฉนวนกาซา โดยทางสหประชาชาติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 1,354 รายเป็นพลเรือน โดยที่เป็นเด็กถึง 447 ราย

กระทรวงมหาดไทยของปาเลสไตน์ระบุว่า เครื่องบินรบอิสราเอลได้ทำลายมัสยิด 3 แห่งในช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (9 ส.ค.) ซึ่งบรรดามัสยิดที่ถูกทำลายเหล่านั้นมี 2 แห่งที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาส

กาซัน อิบรอฮิม ตาวีล ระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้โทรศัพท์หาเขาตอนเวลา 3.00 น. เพื่อเตือนให้เขาอพยพออกจากบ้านของเขาที่อยู่ใกล้ๆ ประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะมีการโจมตีเข้าใส่มัสยิดแห่งหนึ่ง

เขาระบุว่า บอกเพื่อนบ้านทุกหลังไม่ทัน เลยหนีออกมาพร้อมกับเพื่อนบ้านใกล้ๆ เท่านั้น หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีก็มีเครื่องบิน เอฟ-16 ยิงจรวดหนึ่งลูกเข้าใส่มัสยิดหลังนั้นจนพังพินาศ

ขณะที่ฝ่ายปาเลสไตน์ก็ยิงจรวดรวมแล้ว 65 ลูกเข้าใส่อิสราเอล นับจากที่ข้อตกลงหยุดยิงหมดอายุลงในช่วงเช้าวันศุกร์ (8 ส.ค.) ทั้งนี้ ตามข้อมูลตัวเลขของทางอิสราเอล

อิสราเอลระบุว่า ได้ดำเนินการโจมตีมากกว่า 100 ครั้งในฉนวนกาซา นับตั้งแต่เช้าวันศุกร์ (8 ส.ค.) โดยอ้างว่ามุ่งเป้าไปยังจุดที่มีการยิงจรวดออกมา

ในอีกด้านหนึ่ง ริยาด อัล-มัลกี รัฐมนตรีต่างประเทศของปาเลสไตน์ ระบุว่า ในอีกไม่นาน รัฐบาลของเขาจะพยายามนำตัวผู้นำอิสราเอลมาฟ้องร้องต่อศาลระหว่างประเทศ สำหรับความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงคราม

มัลกี บอกกับเอเอฟพีระหว่างการไปเยือนโคลอมเบียว่า พวกเขาจะไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) แล้วเซ็นชื่อในคำฟ้องร้องอิสราเอล เขาบอกด้วยว่าอีกไม่นานนี้ ปาเลสไตน์ก็จะกลายเป็นรัฐอธิปไตยแล้ว ซึ่งจะทำให้ศาลไอซีเจเริ่มดำเนินการสอบสวนได้

ที่กรุงลอนดอน มีกลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 150,000 ราย มารวมตัวกันบนถนนอ็อกซ์ฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ (9 ส.ค.) เพื่อเดินขบวนไปยังสถานทูตสหรัฐฯ และเดินต่อไปยังสวนไฮด์ปาร์ ผู้ประท้วงจำนวนมากได้พากันตะโกนว่าให้ปล่อยปาเลสไตน์เป็นอิสระ พร้อมกับชูป้ายที่เขียนบอกให้สหราชอาณาจักรหยุดการสนับสนุนอิสราเอล

นอกจากนี้ ที่เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ก็มีผู้ประท้วงอีกหลายหมื่นคนที่ออกมาเดินขบวน เพื่อต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล การประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นการเดินขบวนที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนับตั้งแต่สิ้นสุดระบอบการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการเลิกปิดล้อมทั้งทางบกและทางทะเลต่อดินแดนกาซา ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2006 หลังจากที่กลุ่มฮามาสได้จับตัวทหารอิสราเอลไปรายหนึ่ง คือหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของกลุ่มฮามาสและองค์การปกครองปาเลสไตน์ในการเจรจาที่กรุงไคโร

เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ ผู้ไม่ประสงค์จะเผยนามรายหนึ่ง ได้ระบุว่าอียิปต์กับฝ่ายปาเลสไตน์ได้ร่างข้อตกลงเพื่อยื่นเสนอต่ออิสราเอลแล้ว

ร่างข้อตกลงนี้จะระบุให้อียิปต์และองค์การปกครองปาเลสไตน์เข้าควบคุมจุดข้ามแดนระหว่างเมืองราฟาห์กับอียิปต์ ซึ่งโดยสาระสำคัญแล้วเป็นการกระทำตามส่วนหนึ่งของข้อตกลงความสามัคคีเป็นเอกภาพที่กลุ่มฮามาสได้ลงนามไว้กับองค์การปกครองปาเลสไตน์เมื่อเดือนเมษายน

การเจรจาที่จะมีขึ้นในท่าเรือตามความต้องการของกลุ่มฮามาส ระหว่างคนของทางการปาเลสไตน์กับอิสราเอล ที่เตรียมจะตกลงกันนั้น อาจจะต้องล่าช้าออกไปอีก

ส่วนการเจรจาเรื่องท่าเรือกาซาซิตี้ตามความต้องการของกลุ่มฮามาส ตามร่างข้อตกลงนี้จะมีการชะลอออกไปก่อนและมอบหมายให้องค์การปกครองปาเลสไตน์เป็นผู้ไปเจรจากับอิสราเอลต่อไป ทั้งนี้ อิสราเอลมีความไว้วางใจที่จะหารือกับองค์การปกครองปาเลสไตน์ ขณะที่ไม่ต้องการติดต่อกับกลุ่มฮามาส
กำลังโหลดความคิดเห็น