เอเอฟพี - บรรดาเครื่องบินรบของอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายหลายแห่งในฉนวนกาซาวันนี้ (9 ส.ค.) หลังจากที่เมื่อวานมีการสังหารชาวปาเลสไตน์ไปอย่างน้อย 5 ราย ขณะที่กลุ่มฮามาสก็ยิงจรวดหลายสิบลูกเข้าใส่อิสราเอล แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความพยายามที่จะขยายเวลาการหยุดยิง 3 วันออกไปอีก
การสู้รบอันดุเดือดที่กินเวลามานานนับเดือนได้เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่มีหลายฝ่ายพยายามไกล่เกลี่ยให้ขยายช่วงเวลาหยุดยิงที่หมดลงในวันศุกร์ (8 ส.ค.) ออกไปอีก แต่ไม่สำเร็จ โดยทางกลุ่มฮามาสได้เปิดฉากยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลในช่วงก่อนรุ่งสาง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาก็ออกมาระบุว่า ยังคงหวังว่าอาจจะยังพอกอบกู้สถานการณ์นี้ได้ และการตกลงหยุดยิงรอบใหม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
"เราหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นด้วยกับการขยายเวลาหยุดยิงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า" แมรี่ ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
ด้านอียิปต์ที่กำลังเป็นผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ก็ยืนยันว่าการเจรจามีความคืบหน้า พร้อมกับเร่งให้มีการหยุดยิงรอบใหม่ แต่ทางอิสราเอลระบุว่าไม่เจรจาในช่วงที่ยังถูกโจมตีเข้าใส่แบบนี้
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ออกคำสั่งให้กองทัพทำการตอบโต้อย่างเต็มที่ พร้อมกับโทษกลุ่มฮามาสว่าเป็นฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
"กองกำลังชาวปาเลสไตน์ได้ยิงจรวด 40 ลูกเข้าใส่อิสราเอล ทำให้พลเรือน 1 รายและทหารอีก 1 รายได้รับบาดเจ็บ และเพื่อเป็นการตอบโต้ เราได้โจมตีเข้าใส่พื้นที่ของกลุ่มฮามาส 51 แห่ง โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ก่อการร้าย 3 ราย" กองทัพอิสราเอลระบุไว้ในคำแถลง โดยไม่ได้ให้รายละเอียดที่มากกว่านั้น
ความรุนแรงที่ทำให้การหยุดยิง 72 ชั่วโมงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต้องยุติลง ส่งผลให้การสู้รบปะทุขึ้นมาอีก โดยที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดของชาวปาเลสไตน์มีอย่างน้อย 1,898 ราย ขณะที่ทางอิสราเอลเสียชีวิต 67 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหาร นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การสู้รบที่ฉนวนกาซาเริ่มซาลงในช่วงก่อนรุ่งสางของวันเสาร์ (9 ส.ค.) แต่ทางอิสราเอลได้โจมตีหลายครั้ง โดยมุ่งเป้าไปยังบริเวณที่พลเรือนได้หลบหนีออกไปแล้ว
ขณะที่การยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลหยุดลงในเวลา 18.00 น. ของวันศุกร์ (8 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น (1.00 น. ของวันเสาร์ ตามเวลาประเทศไทย) จากข้อมูลของกองทัพอิสราเอล
อัชรัฟ อัล-กูดรา โฆษกของหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินในฉนวนกาซาระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 5 รายและได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 31 รายจากการโจมตีทางอากาศเมื่อวันศุกร์ (8 ส.ค.) โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีเด็กชายวัย 10 ขวบรวมอยู่ด้วย
ชาวปาเลสไตน์บางครอบครัวที่ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในที่หลบภัยซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนของสหประชาชาติ ตอนที่ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันครั้งล่าสุดนี้
องค์การสหประชาชาติระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตที่มากมายของชาวปาเลสไตน์นั้น เป็นเด็กถึง 447 ราย
ที่เขต อัล-ทัฟฟาห์ ในเมืองกาซา พบผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนอาศัยอยู่ในห้องเรียน โดยมีเสื้อผ้าแขวนอยู่ตามระเบียง อีกทั้งยังมีการแย่งกันเข้าคิวของบรรดาผู้ที่มารอรับอาหารของทางยูเอ็น
"มันแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเราทุกคนกลัวกันมาก ผมก็กลัว ลูกผมก็กลัว เมียผมก็กลัว" อับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ชายวัย 33 ปี บอกกับเอเอฟพีที่โรงเรียนดังกล่าว
ทางตอนใต้ของอิสราเอล กองทัพห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันเกิน 500 คนภายในรัศมี 40 กิโลเมตรของฉนวนกาซา พร้อมกับระบุว่า บรรดาโรงเรียนของเด็กเล็กและค่ายพักร้อนในละแวกนั้น จะเปิดทำการได้ก็ต่อเมื่อมีที่หลบภัยอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น
ดอฟ ฮาร์ตุฟ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในนิคมกิบบุตซ์ นาฮัล ออส ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตะวันออกของชายแดนฉนวนกาซา มาเป็นเวลาหลายสิบปี กล่าวว่า "นี่มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก เรานึกว่ามันกำลังจะจบลงแล้วเสียอีก"
"การสู้รบรอบนี้อาจจะกินเวลาแค่ 12 - 24 ชั่วโมง แล้วพวกเขาก็จะเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งนั่นเท่ากับว่าพวกเขาได้ป่วนแผนการใช้ชีวิตของพวกเราไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้พวกเราต้องผิดหวังกันอีกครั้ง โดยเฉพาะกับครอบครัวที่มีเด็กๆ" เขาบอกกับเอเอฟพี
ด้านความเคลื่อนไหวในฉนวนกาซา กระทรวงมหาดไทของปาเลสไตน์ระบุว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลได้โจมตีเข้าใส่เป้าหมายหลายแห่งทางตอนเหนือ รวมถึงเมืองกาซาและบริเวณพื้นที่ใจกลางดินแดนของชาวปาเลสไตน์
ขณะที่อิสราเอลระบุว่าได้มุ่งเป้าโจมตีไปยัง "พื้นที่ของกลุ่มผู้ก่อการร้าย"
การโจมตีทางอากาศเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถัดจากนั้นอีก 9 วันก็มีการรุกภาคพื้นดินเพื่อทำลายปืนใหญ่และจรวดของกลุ่มฮามาส รวมถึงเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่สามารถใช้ลักลอบเข้ามาในดินแดนอิสราเอล
พันโท ปีเตอร์ เลอร์เนอร์ โฆษกกองทัพอิสราเอล ระบุว่า จะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮามาสอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติการต่างๆ รวมถึงฟื้นฟูความมั่นคงของอิสราเอลด้วย
ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของปาเลสไตน์ก็บอกกับเอเอฟพีว่า มีการประท้วงอย่างรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลในแถบเวสต์แบงก์เมื่อวันศุกร์ (8 ส.ค.) ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบราย จากการปะทะกับกองกำลังของอิสราเอล
พวกเขาบอกว่า ทหารอิสราเอลได้สังหาร โมฮัมเหม็ด กาตรี อายุ 19 ปี ในบริเวณใกล้กับนิคมชาวยิว "ซากอต" ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างเยรูซาเล็มกับเมืองรามัลเลาะห์ในเขตเวสต์แบงก์
ส่วนอีกรายคือ เนเดอร์ อีดริส อายุ 22 เสียชีวิตในช่วงเช้าวันเสาร์ที่โรงพยาบาลจากพิษบาดแผลที่ได้รับในระหว่างการประท้วงที่เมืองเฮบรอน ทั้งยังมีอีกหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยมีหนึ่งรายที่อาการหนักเพราะถูกยิงด้วยกระสุนยางและกระสุนจริง
ขณะที่กองทัพอิสราเอลระบุว่า กาตรี คือหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงที่ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ทหารและได้เข้ามาประชิดรั้วของนิคมชาวยิว โดยไม่สนใจคำสั่งของทหารที่บอกให้หยุด
ทางด้านอียิปต์ได้เรียกร้องให้กลับเข้าสู่การหยุดยิงโดยทันที พร้อมกับระบุว่า การเจรจาขณะนี้มีความคืบหน้า
ส่วนหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของชาวปาเลสไตน์ในกรุงไคโรระบุว่า พวกเขายังคงยึดมั่นให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง
"เราบอกกับผู้แทนเจรจาของอียิปต์ว่า เราจะนั่งอยู่ที่นี่เพื่อทำให้ข้อตกลงที่จะช่วยฟื้นฟูสิทธิ์ของชาวปาเลสไตน์บรรลุผล" อัซซัม อัล-อาเหม็ด บอกกับนักข่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสและบรรดานักรบญิฮัดอิสลาม ได้ปฏิเสธข้อเสนอการพักรบอีก 72 ชั่วโมง โดยโทษทางอิสราเอลว่าเป็นต้นเหตุ
กระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ระบุว่า ในข้อตกลงที่กำลังเจรจากันอยู่นั้น เนื้อหาส่วนใหญ่มีความสำคัญกับประชาชนชาวปาเลสไตน์ แต่มีบางข้อที่ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งประเด็นเหล่านั้นเป็นเรื่องสำคัญที่อาจนำไปสู่การยอมตกลงหยุดยิงรอบใหม่
โดยทางกลุ่มฮามาสและบรรดาเจ้าหน้าที่องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ได้ตั้งข้อเรียกร้องหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงเลิกปิดล้อมกาซาที่ดำเนินการมายาวนานกว่า 8 ปีของอิสราเอลและการก่อสร้างท่าเรือ อีกทั้งยังต้องการให้ปล่อยตัวนักโทษสำคัญ 125 คน
แม้จะมีการถอนกำลังทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา ตั้งแต่เริ่มพักรบเมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) แต่ทางอิสราเอลก็ยังคงวางกำลังไว้ในบริเวณชายแดน เตรียมพร้อมสำหรับรับมือการสู้รบที่เริ่มขึ้นใหม่
มีรายงานด้วยว่า อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน ยื่นข้อเสนอที่จะฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่ โดยมุ่งเป้าเสริมความเข้มแข็งให้กับประธานาธิบดี มาห์มุด อับบาส และองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ของเขา ขณะเดียวกันก็สกัดกั้นกลุ่มฮามาสและกองกำลังอื่นๆ ในฉนวนกาซา เพื่อเป็นหลักประกันให้แก่ความมั่นคงของอิสราเอล